วันนี้ (3 พ.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใกล้เปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2559 นอกจากร้านขายชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนจะคึกคักเป็นพิเศษแล้ว ร้านรับปักชื่อก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจฝืดเคือง ผู้ปกครองส่วนใหญ่จำต้องรัดเข็มขัดเพื่อประหยัดรายจ่าย ทำให้เจ้าของร้านขายชุดนักเรียนและร้านรับปักชื่อตามจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครราชสีมา พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้ลูกค้าน้อยกว่าปีก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายนักเรียน บนถนนอัษฎางค์ เขตเทศบาลนครราชสีมา มีผู้ปกครองหอบลูกจูงหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนกันเป็นจำนวนมาก เจ้าของร้านขายชุดนักเรียนบอกว่า ปีนี้มีลูกค้าลดลงกว่าเมื่อปีก่อนราว 20 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่ขยับขึ้นราคาสินค้าโดยคงราคาเสื้อนักเรียนไว้ที่ตัวละ 240 บาท เสื้อลูกเสือหรือเนตรนารี ราคาตัวละ 300 บาท พร้อมจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม เพื่อหวังกระตุ้นยอดขาย
ไม่ต่างจากร้านรับปักชื่อในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาที่มีอยู่เพียง 3 ร้านก็คึกคักไม่แพ้กัน บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองต่างนำเสื้อนักเรียนมาเข้าคิวใช้บริการปักชื่อกันยาวเหยียด เฉลี่ยวันละ 40-50 ตัว สนนราคาตัวละ 30-40 บาท หากปักดาวจะคิดเพิ่มดวงละ 10 บาท ถึงลูกค้าจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติถึง 5 เท่า แต่ทางร้านระบุว่าปีที่แล้วมีลูกค้ามากกว่านี้ครึ่งต่อครึ่ง
การประหยัดรายจ่ายของผู้ปกครองซึ่งส่งผลต่อยอดขายชุดนักเรียนที่ลดลงยังสะท้อนผ่านร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเรียนในตลาดเทศบาลเมืองพิจิตร แม้ว่าร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าแต่ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนต่างก็เลือกซื้อเสื้อผ้าและอุปกรณ์การเรียนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
การเปิดภาคเรียนใหม่ที่มาถึงในช่วงกลางเดือนนี้ ธุรกิจจำหน่ายชุดนักเรียนและบริการรับปักชื่อของทั้งสองจังหวัดคงช่วยสะท้อนภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชนในระดับพื้นที่ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
