นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศได้เปิดภาคเรียนตามปกติแล้ว ผู้ปกครองและครูอาจารย์ ต้องใส่ใจและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน โดยเฉพาะเด็กเล็กระดับอนุบาล เช่น อุบัติเหตุจากการเล่นอุปกรณ์ในสนามเด็กเล่น หรือ ของเล่นต่างๆ การเล่นกับเพื่อน และสิ่งที่สำคัญ คือการลืมเด็กไว้ในรถ ทั้งรถรับ-ส่งเด็กนักเรียน และรถของผู้ปกครอง
จากการเฝ้าระวังข่าวจากสื่อ ของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ในช่วง 5 ปี (พ.ศ.2555-2559) มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืมทิ้งไว้ในรถ จำนวน 13 เหตุการณ์ มีเด็กเสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย และช่วยไว้ได้ทัน 7 ราย ในจำนวนเด็กที่เสียชีวิตเป็นชาย 4 ราย หญิง 2 ราย ทั้งหมดอายุ 3-4 ปี โดยถูกลืมทิ้งไว้ในรถรับ-ส่งนักเรียน 5 ราย และรถยนต์ส่วนบุคคล 1 ราย ทั้งหมดถูกลืมทิ้งไว้นานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กที่เสียชีวิต จำนวน 4 รายนอนหลับอยู่บนรถ ขณะรถกำลังไปส่งที่โรงเรียน ส่วนเด็กที่ช่วยไว้ได้ทันทั้งหมดผู้ปกครองไม่ได้ลืม แต่ตั้งใจทิ้งเด็กไว้ในรถเอง เพราะคิดว่าลงไปทำธุระไม่นาน โดยติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ทิ้งไว้
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลการทดสอบกรณีเด็กติดในรถ (จอดรถกลางแดด) ของศูนย์วิจัยสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่าเด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น หากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดด 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนไม่สามารถทนอยู่ได้ 10 นาทีผ่านไป ร่างกายจะยิ่งแย่ และเมื่อถึง 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ และเกิดอาการสมองบวมตามมา จากนั้นอาจหยุดหายใจ อวัยวะทุกอย่างก็จะหยุดทำงาน และอาจเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ จึงอยากแนะนำผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับ-ส่งนักเรียน และครูอาจารย์ ให้เตือนตนเองใน 3 ข้อควรจำ เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ คือ นับ ควรนับจำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง ตรวจตรา ก่อนล็อคประตูรถ ควรตรวจดูให้ทั่วรถ และอย่าประมาท อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงเวลาสั้นๆ ที่สำคัญหากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถ เพื่อให้เปิดรถโดยเร็ว หากไม่พบเจ้าของรถขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือ
