แม้ว่าในวันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะไม่มีการประชุม กรณี พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีสหกรณ์ เครดิตยูเนียนคลองจั่น แต่ทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือขอความร่วมมือจากดีเอสไอแล้ว โดยอยู่ระหว่างประสานกัน แต่ยังไม่ขอ เปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชน
พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวคคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยกับทีมข่าว พีพีทีวี ว่า วันนี้ ดีเอสไอ ยังไม่มีการประชุม แนวทางการดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เนื่องจากอยู่ระหว่างเร่งสรุป สำนวนคดีให้แล้วเสร็จ เพื่อให้อัยการส่งฟ้อง โดยระบุว่า แม้จะไม่มีตัวผู้ต้องหา แต่เป็นอำนาจของอัยการ เนื่องจากคดีฉ้อโกงเงินฝาก สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ยังมีผู้ต้องหาอีกหลายราย ไม่ใช่เฉพาะพระธัมมชโยคนเดียวเท่านั้น
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ดีเอสไอ ได้หมายค้นจากศาลแล้วนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการทำงานด้านสืบสวนของเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินสถานการณ์รายวัน โดยจะยังไม่เข้าไปจับกุมในเร็ววันนี้ ขณะนี้ยังรอการตอบรับจาก ฝ่ายปกครองสงฆ์ ที่ได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือ ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ทีมข่าว พีพีทีวีได้สอบถามไป ยัง นายพนม สอนศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า ได้รับหนังสือจาก ดีเอสไอแล้ว อยู่ระหว่างประสานงานกัน แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียดการพูดคุย และในช่วง บ่าย วันนี้ จะมีประชุมมหาเถรสมาคม ต้องติดตามว่า จะมีการหยิบยก เรื่อง พระธัมมชโยมาหารือหรือไม่
แม้จะได้รับการยืนยันชัดเจนแล้วว่า ดีเอสไอ จะไม่เข้าไปบุกจับในเร็ววันนี้ แต่มีแนวทางที่ ดีเอสไอ สามารถทำได้คือ หากคดีนี้เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ดีเอสไอ สามารถ ใช้กฎหมายของ ปปง. เข้ามาตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของพระธัมมชโย ซึ่งอาจมีผลต่อการดำเนินการภายในวัดพระธรรมกาย และการที่มีมวลชนเข้ามาปักหลัก บริเวณรอบวัด หากพิสูจน์ ได้ว่า มีการจัดตั้งขึ้น ก็จะเข้าข่ายความผิด ตามแนวทางการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ของ คสช. อาจทำให้ดีเอสไอ ขอความร่วมมือ จากหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงเข้ามาช่วย
