“วิกรม” ท้าพิสูจน์นกเงือกร่วมร้อยยึดไร่ริมเขาใหญ่

วันนี้ (14 มิ.ย. 59) นายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจชื่อดังแห่งนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นกตัวดังกล่าวเป็นนกที่น้องชายช่วยเลี้ยงดูอยู่ เนื่องจากบ้านของน้องชายติดอยู่กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยคนงานพบนกที่ข้างไร่ บินไม่ได้ จึงนำมาเลี้ยง และนกไม่ยอมไปไหน ขอขอบคุณทุกคนที่แสดงความคิดเห็น ซึ่งแสดงว่าสังคมตื่นตัวต่อความถูกต้องของกฎหมายและสังคม โดยไม่มีข้อยกเว้น

นายวิกรม ระบุว่า หากปล่อยไปเชื่อว่าจะถูกสัตว์ป่าหรือคนฆ่าตาย และที่ไร่แห่งนั้นยังมีช้างป่า กระทิง กวาง เก้ง หมูป่า นกเงือกต่างๆ และเป็ดป่า ก็มาที่ไร่ โดยเฉพาะนกเงือกอาศัย ในไร่เกือบร้อยตัว เนื่องจากไม่เคยทำร้ายและมีอาหารจากต้นไม้ ที่ปลูกใหม่เกือบ 10 ปี จนกลายเป็นป่ากันชนระหว่างอุทยานกับชาวบ้าน จากเดิมที่เป็นไร่ข้าวโพด แต่วันนี้มีสารพัดสัตว์ป่าเข้ามายึดไร่เป็นแหล่งอาหารและที่อาศัย หากใครสงสัยหรืออยากไปดูนกป่า หรือสัตว์ป่าต่างๆ ก็เชิญแวะไปดูไร่ที่เขาใหญ่ได้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เพจคนอนุรักษ์โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตว่านายวิกรม ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองหายากได้อย่างไร พร้อมกับระบุว่านายวิกรม อาจครอบครองนกเงือกสีน้ำตาลโดยถูกกฎหมาย แต่ยังไม่แสดงหลักฐานให้สาธารณชนทราบเท่านั้น

       
โดย พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ระบุว่า ห้ามครอบครองสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีสัตว์ที่ครอบครองเป็นสัตว์ที่มาจากการเพาะพันธุ์ที่ไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

อย่างไรก็ตาม กฎหมายให้ดูที่เจตนา หากนายวิกรม ไม่ได้ผูกเชือกหรือขังกรงไว้ ก็ไม่ถือเป็นการครอบครอง เพราะนกสามารถบินไปมาได้ในบริเวณบ้านพัก หรือที่อื่นๆ ได้ แต่นายวิกรมต้องแจ้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งชาติ หากมีนกเงือกเข้ามาอยู่ในบริเวณบ้าน เพื่อนำสัตว์นั้นกลับไปสู่ธรรมชาติ แต่กฎหมายไม่ได้กำหนดโทษผู้ไม่แจ้งไว้