แรงงานชาวเมียนมาร์ จำนวนไม่น้อย ยอมตากฝนตากลม ที่กระหน่ำ ลงมาอย่างหนัก ส่งเสียงเรียกชื่อ ของนางอองซานซูจี เป็นภาษาถิ่น ด้วยความยินดี แม้พวกเขาจะไม่ไม่แม้โอกาสที่จะได้เห็น เดอะ เลดี้ แห่งอาเซียน ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวอย่างที่อยากจะบอก ไม่ได้ใกล้ชิดขวัญใจของพวกเขาอย่างที่หวังไว้
การเดินทางมาเยือนไทยครั้งนี้ กำหนดการต่างๆ ถูกปรับลด และถูกยกเลิก ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย
ตั้งแต่วันแรกที่นางอองซาน ซูจี ก้าวขาเหยียบแผ่นดินไทย แทบทุกสายตาจากทั่วทุกมุมโลกก็จับจ้องไปที่เธอ การมาเยือนครั้งนี้เป็นการเดินทางมาอย่างเป็นทางการในฐานะที่ปรึกษาแห่งรัฐ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สหภาพเมียนมาร์
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ณ ตลาดทะเลไทย อำเภอมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ตลอดทั้งวัน เป็นหนึ่งในปรากฎการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่า หญิงวัย 71 ปีคนนี้ มีอิทธิพลอย่างมากต่อชาวเมียนมาร์ในไทย
4 ปีที่แล้ว นางอองซานซูจี ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านเวลานั้น เคยมาพบแรงงานเมียนมาร์ที่มหาชัยมาแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกัน จะเห็นเพียงสิ่งเดียวที่เหมือนกัน คือภาพแรงงานชาวเมียนมาร์จำนวนมาก มาปักหลักรอพบเธอ แต่รายละเอียดอื่นๆ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ที่มหาชัย เมื่อ 2 วันก่อน ตัวแทนแรงงานเมียนมาร์ 500 คน ที่ทำงานในโรงงานชั้นนำ เป็นเพียงกลุ่มเดียว ที่ผ่านการคัดเลือกได้เข้าฟังคำปราศรัยของอองซานซูจี แต่เมื่อ 4 ปีก่อน อองซานซูจีปรากฏกาย ภายในชุมชนของแรงงานชาวเมียนมาร์ และพูดกับทุกคนกลางที่โล่งแจ้ง ทำให้สื่อมวลชนมีโอกาสซักถามเธอในประเด็นต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา ต่างจากครั้งนี้ที่สื่อมวลชนมีโอกาสเพียงการบันทึกภาพตามเวลาที่กำหนด ไร้โอกาสในการซักถามเธอโดยตรง
นอกจากประเด็นเรื่องแรงาน การมาไทยของอองซานซูจี ยังได้รับความสนใจว่าจะมีคำตอบในประเด็นอื่นๆ ที่ได้รับความสนใจหรือไม่ เช่ย การสร้างสันติภาพในเมียนมาร์ กับกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เรียกร้องความเป็นสหพันธรัฐ รวมถึงท่าทีต่อเรื่อง “โรฮิงญา” ที่หลายฝ่ายสนใจ แต่ไม่มีท่าทีใดๆในประเด็เหล่านี้ จาก อองซานซูจี
นักวิชาการ เชื่อว่า ประเด็น โรฮิงญา อ่อนไหวต่อความรู้สึกของชาวเมียนมาร์ส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก แม้แต่รัฐบาลเมียนมาร์ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า โรฮิงญา เรียกชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ และแน่นอนว่าการพูดเรื่องนี้จะไม่ส่งผลดีต่อพรรค NLD แน่ๆ เพราะไม่ว่าตะตอบอย่างไร ก็ต้องพบกับเสียงวิจารณ์ทุกทาง
แต่ประเด็นเรื่องผู้ลี้ภัยและการสร้างสันติภาพในเมียนมาร์ นางอองซาน ซูจี ตอบเพียงว่า การสร้างสันติภาพและการแก้ปัญหา จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจ
นี่เป็นคำตอบว่า เหตุที่สื่อมวลชนแทบไม่มีโอกาสได้ตั้งคำถามกับนางอองซาน ซูจีโดยตรง เพราะรัฐบาลเมียนมาร์ และนางอองซานซูจี ไม่ต้องการจะพูดถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว