พญ.มยุรา กุสุมภ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน ทำให้คนรุ่นใหม่ทั้งหญิงและชาย มีค่านิยมอยู่เป็นโสดและแต่งงานช้าลง อัตราเพิ่มประชากรจึงลดลงจาก ร้อยละ 2.7 ในปี 2513 เหลือเพียง ร้อยละ 0.7 ในปี 2553 ส่งผลให้อัตราเจริญพันธุ์รวมของประเทศลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานอายุ 20-34 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมที่จะมีบุตรตั้งครรภ์และคลอดลดลง ในขณะที่กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปีกลับมีการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการตายของมารดาสูงถึง 20.0 ต่อการเกิดมีชีพแสนคน ในปี 2558 โดยสาเหตุการตายส่วนใหญ่มาจากการตกเลือดหลังคลอด หญิงตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ร้อยละ 39 และเด็กปฐมวัยมีพัฒนาการไม่สมวัย ร้อยละ 27.3
กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะงานอนามัยแม่และเด็ก เร่งรัดและผลักดันการพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยจัดทำร่างนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560-2569) เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นให้สำเร็จ โดยการขับเคลื่อนพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 เพื่อให้ระบบบริการมีคุณภาพและได้มาตรฐานนำไปสู่การส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ส่งผลให้ประชากรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการแผนงาน โดยมีมาตรการสนับสนุนโรงพยาบาล และสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ จัดบริการสุขภาพที่เป็นมิตรตามแนวทางมาตรฐานบริการสุขภาพที่เป็นมิตร (Youth Friendly Health Services : YFHS) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและเยาวชนทั้งเชิงรับและเชิงรุก พร้อมทั้งบูรณาการการทำงาน การป้องกัน และแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และปัญหาพฤติกรรมที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งการส่งเสริมให้วัยรุ่นและเยาวชน มีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมและปลอดภัย