นับเป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง กว่านักผจญเพลิงจะควบคุมไฟที่ลุกไหม้อาคารโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ซินีเพลกซ์ ปิ่นเกล้า และดับเถ้าถ่านทั้งหมดได้
แม้ระบบดับเพลิงภายในอาคารแบบฉีดน้ำสปริงเกอร์จะทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาเหตุลงไปได้ทำให้โรงภาพยนตร์ถูกไฟไหม้เสียหายถึง 5 โรง
หนึ่งในทีมนักผจญเพลิงเปิดเผยถึงอุปสรรคใหญ่ที่ดับไฟได้ช้า กับทีมข่าว PPTV ว่าเพราะไม่มีแผนผังอาคารนำทางให้เข้าไปยังจุดต้นเพลิง ขณะที่ภายในโรงหนังก็เต็มไปด้วยวัสดุตกแต่งทั้ง เก้าอี้ พื้นพรม ผนังเก็บเสียง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี
นอกจากนี้ ในการเข้าระงับเหตุไฟไหม้นั้นเจ้าหน้าที่อาคาร ได้ทำการเข้าดับไฟก่อนในเบื้องต้น แต่เมื่อไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงแจ้งทีมนักผจญเพลิงให้เข้ามาช่วย ซึ่งขณะนั้นไฟลุกลามไปเป็นจำนวนมากแล้ว
ความเสียหายที่ปรากฎ เก้าอี้ พรม ผนังที่บุนวมกันเสียง และวัสดุตกแต่งต่างๆ ซึ่งแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้เห็น สะท้อนให้เห็นว่าไฟลุกท่วมขึ้นสู่ด้านบน จากวัสดุด้านในที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า แม้โรงภาพยนตร์ซึ่งจัดเป็นอาคารสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ที่ต้องใช้วัสดุทนไฟแต่กฎหมายยังมีช่องโหว่ที่บังคับใช้เพียงตัวโครงสร้างเท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงวัสดุตกแต่งด้านใน และแม้ด้านในอาคารจะมีระบบดับเพลิงแบบฉีดน้ำสปริงเกอร์ แต่เพราะความสูงของเพดานโรงภาพยนตร์ ที่สูงกว่าอาคารปกติทั่วไป ทำให้ระบบนี้แทบไม่มีประโยชน์เมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้น
โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซินีเพล็กเป็นอาคาร ที่สร้างมานานกว่า 20 ปี ขออนุญาตปรับปรุงอาคารกับ กทม. เมื่อปี พ.ศ. 2548 เบื้องต้น มีระบบดับเพลิงตามมาตรฐาน แต่กลับใช้ไม่ได้ผล ในวันพรุ่งนี้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำไปเสนอปรับแก้กฎหมายที่ครอบคลุมทั้งอาคารใหม่ และอาคารเก่าให้เหมาะสมกับสภาพอาคาร เพื่อป้องกันความสูญเสียร้ายแรงจากเหตุไฟไหม้
พิพัฒน์ ปิ่นหิรัญ ถ่ายภาพ
อรอุษา พรมอ๊อด รายงาน