วันนี้ (19 ส.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ศาลทหารกรุงเทพ อนุมัติหมายจับ 17 ผู้ต้องหาที่เป็นทั้งพลเรือนและตำรวจ ในฐานความผิดอั้งยี่ซ่องโจรและฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัด โดยควบคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 11 จำนวน 15 คน ติดตามจับกุมอีก 2 คน โดยพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม
รายงานเบื้องต้นพบว่า ยอมรับว่าเป็นสมาชิกของพรรคปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ มีแนวคิดต่อสู้ทางการเมืองกับรัฐ โดยการตรวจค้นบ้าน 1 ใน 17 ผู้ต้องหา พบอาวุธปืนสงคราม AK-47 จำนวน 1 กระบอก แต่ไม่ได้มีส่วนก่อเหตุรุนแรงใน 7 จังหวัดภาคใต้
ขณะที่ตำรวจพบ 3 ผู้ต้องสงสัยร่วมกันก่อเหตุวางระเบิดในย่านบาร์เบียร์ และบริเวณหอนาฬิกาอำเภอหัวหิน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ภาพมาจากกล้องซีซีทีวี รวมทั้งพยายามวางระเบิดเพลิงในตลาดฉัตร์ไชยหัวหิน ทั้ง 3 คนสวมหมวกอำพรางใบหน้า โดยหนึ่งในผู้ต้องสงสัยมือถือถุงพลาสติก ซึ่งคาดว่าน่าจะซุกซ่อนระเบิดอยู่ด้านใน และจุดที่เดินออกมาจากตลาดฉัตร์ไชย หลังจากนำระเบิดเพลิงไปวางไว้ในตลาดฉัตร์ไชยทั้ง 2 จุด และคาดว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยลงมือในวันที่ 10 ส.ค.เพียงวันเดียว ซึ่งเมื่อตรวจสอบพฤติกรรมก็พบว่า ทั้ง 3 คน ใช้วิธีเดินเท้าไปรอบเมืองหัวหิน ตามจุดสำคัญต่างๆ บางจุดมีการนั่งพักประมาณ 10 นาที นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งหน้าที่กัน คือ มีการเดินสำรวจ และเฝ้าระวังหน้า ระหวังให้กันไม่ให้มีพิรุธ
โดยจุดแรกวางระเบิดในย่านบาร์เบียร์ 2 จุดก่อน หลังจากนั้น จึงไปวางที่บริเวณหอนาฬิกา และในตลาดฉัตร์ไชย ก่อนที่จะหลบหนีออกจากพื้นที่ในวันเดียวกัน ซึ่งทางตำรวจได้เห็นภาพหน้าตาผู้ต้องสงสัยลงมือก่อเหตุอย่างชัดเจน และยังทราบชื่อของทั้ง 3 คนหมดแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัว ซึ่งยังคงอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เบื้องต้น เชื่อมั่นว่าทั้ง 3 คนไม่สามารถหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ในขณะนี้
ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่าแม้รูปแบบการระเบิดจะคล้าย 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่เชื่อว่า ไม่ใช่การขยายพื้นที่ และเชื่อว่าผู้ก่อเหตุยังหลบหนีในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
จุดที่สอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบผู้ต้องสงสัย 4 คน ไม่สื่อสารกันด้วยภาษาถิ่น สวมหน้ากากอนามัย ว่าจ้างรถโดยสารจากตลาดเกษตร 2 ไปลงที่ป้อม ตำรวจทางหลวง ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง และจุดที่สาม ที่นครศรีธรรมราชพบชาย 2 คน ผู้ต้องสงสัยร่วมกันวางเพลิงห้างเทสโก้-โลตัส ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้าพักที่อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ก่อนว่าจ้างรถจักรยานยนต์ ไปส่งที่ บขส.เดินทางไปลงรถที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ส่วนหลังจากที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่จังหวัดตรัง หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตลาดเซ็นเตอร์พ้อยเพื่อสร้างความมั่นใจแก่พ่อค้าแม่ค้าประชาชน นักท่องเที่ยว ขณะที่แม่ค้าตลาดเซนเตอร์พ้อย ต่างบ่นเปิดตลาดวันแรกไม่คึกคัก คาดประชาชนยังตื่นกลัวกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิด ส่วนแผงขายปาท่องโก๋ของจ่าเอกวิเชิด วิริยานุภาพพงศ์ ที่เสียชีวิต ยังว่างเปล่าไม่มีแผงขายสินค้าแต่อย่างใด
ขณะที่ชาวหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันต์ กว่าสามร้อยคน ออกมารวมตัวกันที่หอนาฬิกา จุดเกิดเหตุระเบิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 สิงหาคม พร้อมชูป้ายข้อความให้กำลังใจกัน แสดงพลังความเชื่อมั่นว่าเมืองหัวหินกลับมาปลอดภัยแล้ว
