การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม โมบายแบงค์กิ้ง และอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง แม้สถาบันการเงินจะมีมาตรการที่เข้มงวดมากก็ตาม แต่เหล่ามิจฉาชีพย่อมก้าวทันเทคโนโลยี โดยใช้วิธีหลอกแฮกข้อมูลในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดพ่อค้าขายของออนไลน์ซึ่งถูกมิจฉาชีพแกล้งทำเป็นลูกค้าซื้อของและขอดูบัตรประชาชน จึงหลงกลถ่ายรูปบัตรส่งให้ แต่หลังจากนั้นพบว่าเงินในบัญชีสูญหายไปเกือบ 1 ล้านบาท ส่วนซิมมือถือที่ใช้ก็ถูกระงับสัญญาณด้วยเช่นกัน
พฤติการณ์ของคนร้ายคือจะใช้แถบบาร์โค้ดเล็กๆซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือของบัตรประชาชน แม้ว่าจะปิดบังเลข 13 หลักแล้วก็ตาม แต่คนร้ายสามารถใช้แอพพลิเคชั่นสแกนบาร์โค้ดซึ่งสามารถโหลดได้ทั่วไป ทำการสแกนแถบบาร์โค้ดของเหยื่อก็จะได้เลข 13 หลักไป จากนั้นก็จะนำหลักฐานไปแจ้งขอเปิดซิมโทรศัพท์ใหม่แต่ใช้เบอร์เดิมที่ค่ายมือถือ ก่อนจะแจ้งไปยัง Call Center ของธนาคารเพื่อขอ Reset Password ของ M-Banking โดยยืนยันตัวตนผ่าน SMS ที่ได้รับ จากนั้นก็สามารถกดโอนเงินของเหยื่อเข้าสู่บัญชีได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่ต้องระวังคืออย่าเปิดเผยข้อมูลสำคัญให้กับคนแปลกหน้า หากต้องถ่ายสำเนาบัตรให้ขีดคร่อมพร้อมระบุ วัน เดือน ปี และเหตุผลที่ใช้ให้ชัดเจน ระวังแถบบาร์โค้ดด้านข้างบัตรประชาชน เพราะสามารถสแกนอ่านเลข 13 หลักได้ อย่าให้คนร้ายทราบข้อมูลส่วนตัวและเลขที่บัญชีธนาคาร และหากบัตรประชาชนสูญหายควรรีบแจ้งความทันที
ขณะที่ กสทช. เตรียมออกมาตรการป้องกันโดยใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลทางออนไลน์ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น
อย่ามองข้ามเรื่องการปลอมแปลงข้อมูลบนบัตรประชาชน ซึ่งนับเป็นภัยใกล้ตัวอย่างยิ่ง เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่าแค่บาร์โค้ดก็สามารถสแกนหาเลข 13 หลักได้ และอาจถูกแฮกข้อมูลสำคัญ พร้อมกับโอนเงินในบัญชีธนาคารจนหมดเนื้อหมดตัว