วันนี้ (25 ส.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากใครไม่เชื่อว่าทำเกษตรปลดหนี้แล้วรวยต้องดู ลุงทองปาน พิมพานิชย์ อายุ 66 ปี เกษตรกร บ.คำประมง ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เนื่องจากเมื่อ 19 ปี ก่อนลุงทอนปาน มีอาชีพทำนา ในเนื้อทั้งหมดที่ 30 ไร่ แต่ทำยังไงก็ไม่ได้ผล เพราะดินที่ปลูกเป็นดินร่วนปนทรายและที่ดอน ทำนากี่ปีก็ขาดทุนมีแต่เป็นหนี้ จึงตัดสินใจปรึกษา สนง.พัฒนาที่ดิน จ.สกลนคร สนง.เกษตร จ.สกลนคร จนมาพบกับวิธีการทำให้ดินมีสภาพดีกลับมาปลูกพืชได้ โดยการทำน้ำหมักชีวภาพปรับสภาพดิน เพียงแค่ใช้หอยเชอรี่ตามท้องไร่ท้องนา หมักกับเศษอาหาร วัชพืช นำไปผสมกับมูลสัตว์ นำไปหมักและไปหมก กับเศษใบไม้
แล้วทดลองปลูกพืชผักสวนครัวโดยใช้น้ำหมักปรากฏว่าให้ผลผลิตงอกงาม จึงเริ่มทำอย่างจริงจัง ปลูกผักสวนครัวไปขายจากนั้นชีวิตดีขึ้นเริ่มมีเงินเหลือใช้ ต่อมาจึงไปศึกษาดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการทำเกษตรแบบผสมผสาน เลี้ยงหมู เลี้ยงปลา ปลูกทุกอย่างที่กินได้ เช่น กล้วยหอมทอง อ้อย อินทะผลัม สับปะรด ม่ะม่วงนอกฤดู มะขาม แก้วมังกร พุทราและพืชผักสวนครัว พริก มะละกอ ผักหวาน นอกจากนี้ยังปลูกต้นคราม เพื่อนำสีของครามไปย้อมผ้าฝ้าย ให้แม่บ้านทักทอเป็นเครื่องนุ่งห่มสร้างรายได้เสริมอีกด้วย จนทำให้ลุงทองปานทุกวันนี้จากเมื่อก่อนเคยเป็นหนี้ กลายเป็นเศรษฐีอยู่อย่างสุขสบายด้วยการทำเกษตรแบบครบวงจร
นายร่มไม้ นวลตา เกษตร จ.สกลนคร เปิดเผยว่า ปัจจุบันเกษตร ที่ทำเกษตรประสบปัญหาผลผลิตไม่ดี เพราะทำเกษตรเชิงเดี่ยว ต้องทำแบบผสมผสาน เช่น ลุงทองปาน ไปปรับใช้ ทุกวันนี้ สนง.เกษตร จ.สกลนคร ได้นำแนวทางเกษตรของลุงทองปานไปเป็นแบบอย่างให้เกษตรกรที่สนใจได้มาศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะผู้ประสบปัญหาดินไม่ดีปลูกอะไรก็ไม่ได้ผล ทำอย่างไรถึงจะปรับสภาพดินได้โดยไร้สารเคมี เน้นทำเกษตรแบบอินทรีย์จะได้ผลดีเป็นอย่างมาก สำหรับรายได้ลุงทองปานจากการขายกล้วยหอมทอง ทุกวันนี้ในประเทศยอดสั่งแทบไม่พอขาย รวมไปถึงอ้อย รายได้ก็เฉียดหลักแสนต่อเดือนแล้ว
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะมาศึกษาดูงานที่สวนของ ลุงทองปานก็ติดต่อได้ที่เบอร์ 080-196-9410.
