“การเสียชีวิตเกิดจากมีเลือดออกในช่องท้องเนื่องจากถูกของแข็งไม่มีคมและขาดอากาศหายใจ” .... หรือ แปลง่ายๆ ว่า “ตับแตก”
นี่เป็นผลชันสูตรศพ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ที่ถูกจับฐานออกเอกสารสิทธิมิชอบในพื้นที่ภูเก็ต พังงา และสุราษฎร์ธานี มากกว่า 1,000 แปลง รวมๆ แล้วก็น่าจะอยู่ระหว่าง 2-3 หมื่นไร่
เป็นปริศนาที่สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ... ว่า ทำไม นายธวัชชัย จึงเสียชีวิต ... โดยเฉพาะเมื่อผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่ดีเอสไออยากได้ตัวมานาน มาเสียชีวิต ในห้องขังของ ดีเอสไอ เอง
คำอธิบายแรก ... จากเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ ... ใช้เสื้อ ผูกคอตัวเอง
คำอธิบายต่อมา ... จาก หัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องขัง ... ใช้ถุงเท้า ผูกคอตัวเอง
จนกระทั่งมาถึงผลชันสูตร .... มีเลือดออกในช่องท้องเนื่องจากถูกของแข็งไม่มีคมและขาดอากาศหายใจ
ดีเอสไอ แถลงเมื่อเย็นวานนี้ ระบุว่า ผู้ต้องหาร้องขอถุงเท้า เพราะรู้สึกหนาว เจ้าหน้าที่จึงนำถุงเท้าของนายธวัชชัยเองมามอบให้
คำแถลงของดีเอสไอ อ้างว่า หลังพบว่าผู้ต้องหาพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการใช้ถุงเท้าผูกคอตัวเองกับบานพับประตู เจ้าหน้าที่จาก รพ.มงกุฎวัฒนะ เข้ามาปฐมพยาบาลด้วยการปั๊มหัวใจภายในห้องขังประมาณ 15 นาที และอาจเป็นสาเหตุให้กระเทือนไปถึงอวัยวะภายใน
เช้านี้ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้ ดีเอสไอ โดยยืนยันว่า การทำ CPR หรือ การปั๊มหัวใจ ทำที่ทรวงอก ไม่มีผลต่อตับอย่างแน่นอน พร้อมทิ้งประเด็นสำคัญไว้ว่า หน่วยกู้ชีพของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้รับแจ้งเพียงว่า คนป่วยเป็นลมหมดสติ ไม่ได้บอกว่า ผูกคอตาย ... และหน่วยกู้ชีพ พานายธวัชชัย ไปที่ รพ. พร้อมให้ออกซิเจน และช่วยอยู่นาน
เมื่อไม่ใช่ CPR ที่เป็นสาเหตุให้นายธวัชชัย “ตับแตก” .... นี่จึงยังเป็นปริศนาที่ ดีเอสไอ อาจจะลำบากในการหาคำอธิบาย โดยเฉพาะเมื่อคำอธิบายเมื่อวานนี้ ถูกโต้แย้งไปแล้ว ยิ่งยากที่จะอธิบายใหม่
เรามาลองวิเคราะห์กันดีกว่าครับ
ประเด็น ตับแตก เลือดออกในช่องท้อง เพราะอะไร ... แน่นอน ยังไม่มีคำตอบ
ประเด็นการผูกคอตาย ... ดีเอสไอ บอกว่า ผู้ต้องหา ใช้ถุงเท้าตัวเอง ที่เจ้าหน้าที่หยิบให้ ไปมัดต่อกัน และผูกคอตาย กับบานพับประตู ... ก็ต้องดูว่า เป็นไปได้หรือไม่ .... ถุงเท้าที่ใช้ คือ ถุงเท้าลักษณะเดียวกับที่ผู้ตายใส่มาด้วย ทั้งสี และความยาว ค่อนข้างสอดคล้องกันจริง แต่ที่ชวนสงสัย คือลักษณะของบานพับประตูห้องขัง ซึ่งมีช่องแคบๆ เท่านั้น คำถามคือ เพียงพอ จะยัดถุงเท้าหนาๆใส่เข้าไปได้หรือไม่ ข้อนี้ ผมว่า ดีเอสไอ ต้องรีบทำให้เกิดความกระจ่างโดยเร็ว ด้วยการพาสื่อมวลชนไปดูที่เกิดเหตุ และทดลองทำให้ดู
เช้าวันนี้ PPTV ส่งหนังสือไปที่ ดีเอสไอ ขอเข้าไปถ่ายทำ แต่ได้รับคำตอบว่า ให้รอผลสรุปจากคณะกรรมการสอบสวน นั่นคือ เข้าไปถ่ายทำ “ไม่ได้”
เมื่อวิเคราะห์ ทั้ง 2 ประเด็น ข้างต้น จึงสรุปได้ว่า สาเหตุการตาย ... ยังเป็นปริศนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปริศนาที่ว่า “เป็นไปได้หรือไม่” ซึ่งถือเป็นโจทย์สำคัญกว่า “ฆ่าตัวตายหนือไม่” ด้วยซ้ำ
แต่ผมจะลองวิเคราะห์อีกประเด็น ....ที่เห็นว่า สำคัญไม่แพ้กัน คือ “ถ้านายธวัชชัย จะถูกฆ่าตาย” เพราะอะไร ทำไมต้องฆ่าในห้องขัง ดีเอสไอ
ข้อนี้ผมสงสัยอย่างมาก ... (ยืนยันว่าไม่ได้ปกป้อง ดีเอสไอ) แต่เห็นว่า เป็นข้อสังเกตที่ทิ้งไม่ได้
- การฆ่าในห้องขังของ ดีเอสไอ ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ และองค์กรดีเอสไอ กลับเป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้ดีเอสไอถูกมองในแง่ลบ ... และอาจเป็นเหตุผลด้วยซ้ำ ที่ผู้ต้องหาสำคัญในคดีอื่นๆ จะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธการมอบตัวต่อดีเอสไอ
- ถ้าจะฆ่าผู้ต้องหารายนี้ ไม่จำเป็นต้องนำตัวมาขังที่ดีเอสไอ การอ้างว่า ผู้ต้องหาหลบหนี ต่อสู่ระหว่างจับกุม น่าจะมีเหตุผล ฟังขึ้นมากกว่า
- ชุดที่ทำหน้าที่สืบสวนคดี ไม่ใช่ชุดที่เข้าจับกุม
- ดีเอสไอมีหลักฐาน เอกสาร ครบถ้วน ที่จะดำเนินคดี “ออกเอกสารสิทธิมิชอบ” กับนายธวัชชัย โดยที่หากมีตัวนายธวัชชัยอยู่ด้วย จะง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่มี ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ดังนั้น การตาย จึงไม่น่าจะมีผลต่อรูปคดีนี้ ... เว้นแต่ จะมีผู้ยิ่งใหญ่รายอื่น ได้รับประโยชน์ที่ดินจากนายธวัชชัย แต่ยังไม่ถูกเปิดเผย
โจทย์เหล่านี้ สำคัญทีเดียว .... ใคร ได้ประโยชน์จากการตาย ของ นายธวัชชัย ... ซึ่งผมว่า ไม่ใช่ชุดสืบสวนทำคดีแน่ๆ เพราะใช้เวลานานมาก กว่าจะตามจับมาได้
ประเด็นการตาย ... ไม่เคลียร์ เรื่องก็ไปต่อยาก
สค.1 บิน เล่ห์กล ธวัชชัย ออกเอกสารสิทธิมิชอบ
การหาความจริงต่อการตายของนายธวัชชัย อนุกูล อาจทำได้อีกทางหนึ่ง ... นั่นคือ ย้อนกลับไปดูเส้นทาง “เอกสารสิทธิ์” ที่เขาออกไว้
เขารับตำแหน่งเป็น หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดิน ภูเก็ต ช่วงปี 2543- 2545 (โดยประมาณ)
ภูเก็ต มากกว่า 1,000 แปลง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ฝั่งตะวันตกที่ติดชายทะเล คือ กะตะ กะรน ในทอน กมลา ป่าตอง และถนนบายพาสในเมือง
และที่เป็นต้นเหตุให้เขาถูกจับกุม คือ การออกเอกสารสิทธิในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ 13,750 ไร่ ส่วนใหญ่ริมทะเล ตั้งแต่หาดในทอน ถึง ลายัน
อีกพื้นที่ ออกเอกสารสิทธิ 3 แปลง บนเทือกเขา ที่เรียกว่า เทือกเขากมลา หรือ เทือกเขานางพันธุรัตน์ ต.รัษฎา อ.เมือง พื้นที่นี้ มีปรากฏในสารบบของ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เมื่อ 28 ธันวาคม 2553 หรือ เกือบ 6 ปีที่แล้ว
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นพื้นที่ราคาสูงลิบ บางส่วนเป็นเขตอุทยานที่ไม่น่าเชื่อว่าออกได้ บางส่วนเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และบางส่วนเป็นพื้นที่ สปก.
ที่เหลือเชื่อกว่านั้น คือ เป็นเพียงหัวหน้าฝ่ายทะเบียน แต่ใช้อำนาจออกเอกสารสิทธิ ในฐานะ รักษาราชการแทนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต
จากภูเก็ต ธวัชชัย ย้ายไปประจำ ที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
ที่ “เขาหน้ายักษ์” เขาโชว์ผลงานชิ้นเอก ออกเอกสารสิทธิอีกกว่า 500 แปลง รวมกว่า 10,500 ล้านบาท
ดีเอสไอ ยังไปพบว่า ชื่อของ “ธวัชชัย อนุกูล” ถูกศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัดสินจำคุกไว้ 12 ปี ในข้อหาออกเอกสารสิทธิมิชอบ 1 แปลง ที่สุราษฎร์ธานี (ผู้เขียนไม่ทราบพิกัด) ซึ่งเป็นคดีที่เชื่อว่า เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะย้ายมาประจำที่ภูเก็ต
วิธีการหนึ่งที่ใช้ออกเอกสารสิทธิมิชอบ ของธวัชชัย ปรากฏในเอกสารของ ป.ป.ช. เป็นวิธีการที่รู้จักกันดี “สค.1 บิน”
อธิบายง่ายๆ คือ เอกสารสิทธิ ที่ออกขั้นแรก ก่อนจะเป็นโฉนด ต้องออกเป็น นส.3 ก.
ก่อนจะเป็น นส.3 ก. ได้ ผู้ที่ขอออก นส.3 ก. ต้องมีเอกสารสิทธิครองครองที่ดิน ที่เรียกว่า สค.1
แต่ ในที่ อุทยาน ป่าสงวน สปก. ย่อมแน่นอนว่า ไม่มี สค.1 มาก่อน
วิธีการนี้ เจ้าหน้าที่ ที่ออกเอกสารสิทธิ์ จึง ไปนำ สค.1 จากที่ดินแปลงอื่น มาใช้เป็นหลักฐานถือครองที่ดินของรัฐ โดยอ้างว่า อยู่มาก่อนประกาศเป็นที่ของรัฐ เพื่อใช้สวมสิทธิออก นส.3 ก.
สค.1 ที่ถูกนำมาออกเอกสารสิทธิ จึง “บิน” มา
และไม่แน่ว่า ที่ดิน ที่ถูกออกเอกสารสิทธิโดย ธวัชชัย อนุกูล ในฐานะรักษาราชการแทนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ... จะมีเพียงเท่านี้
น่าสนใจว่า “ที่ดินเหล่านี้” ออกเอกสารสิทธิไว้ให้ใครบ้าง .... บางพื้นที่ยังอาจถูกซื้อขายเปลี่ยนมือไปแล้ว ... ปัจจุบัน อยู่ที่ใคร .... และสืบค้นไปถึงใครได้อีก
เพราะ “ธวัชชัย อนุกูล” อาจมีความหมาย มากกว่า หลักฐาน เอกสาร เฉพาะในคดีที่ถูกจับกุม
งานนี้ “ดีเอสไอ” เจอโจทย์ใหญ่ ที่ต้องเคลียร์โดยด่วน
อย่าปล่อยให้การทำคดีที่แสนยากเย็นของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจต้องสูญเปล่าไปพร้อมกับวิญญาณของผู้ต้องหาคนสำคัญ
“สมการข่าว” ตับแตก + ผู้ครอบครอง สค.1 บิน = ไขปริศนา ธวัชชัย อนุกูล
*** ปล. เมื่อปี 2546 พงศธร หิรัญบูรณะ หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต ที่รับงานต่อจาก ธวัชชัย อนุกูล ถูกยิงเสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุ
ก่อนเสียชีวิต เขาเป็นผู้ออกมาเปิดเผย การออกเอกสารสิทธิมิชอบที่ดินหลายแปลงในจังหวัดถูเก็ต ที่เกิดขึ้นก่อนเขามารับหน้าที่ ... จนถึงวันนี้ ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า พงศธร หิรัญบูรณะ ถูงยิง... เพราะอะไร ??
