วันนี้ (7 ก.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชื่อและหน้าตาไฟล์เอกสารสำคัญของผู้เสียหายรายนี้ ถูกเปลี่ยนไปจากของเดิมทันทีที่คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ติดไวรัส เมื่อผู้เสียหายลองกดเปิดไฟล์เหมือนทุกครั้ง กลับทำไม่ได้ แถมยังพบว่าตัวเองกำลังถูกแฮกเกอร์ข่มขู่เรียกค่าไถ่ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีข้อมูลสำคัญทั้งหมดถูกจับไว้เป็นตัวประกัน
เมื่อเวลาเริ่มนับถอยหลัง ผู้เสียหายจึงตัดสินใจทำตามสิ่งที่แฮกเกอร์แนะนำ คือการไปแลกซื้อบิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินในโลกดิจิทัล มากว่า 16,000 บาท เพื่อจ่ายเป็นค่าไถ่ไฟล์ทั้งหมด โดยไม่มีใครการันตีได้ว่าหากจ่ายเงินแล้วจะได้ไฟล์คืนจริงหรือไม่ นับว่าผู้เสียหายรายนี้ยังโชคดีที่เมื่อจ่ายเงินครบก็ได้รหัสปลดล็อกไฟล์ทั้งหมดจากแฮกเกอร์ตามสัญญา
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระบุว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้ เพราะไวรัสเรียกค่าไถ่หรือแรนซอมแวร์มีแอบแฝงอยู่ทุกที่บนโลกออนไลน์ และแฮกเกอร์ส่วนใหญ่ไม่ได้หวังสร้างความสะใจ แต่หวังสร้างกำไรจากทุกข้อมูลที่เจาะได้
หลังจากนี้ ผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยมีหลักฐานชื่อบัญชีที่รับแลกเงินบิทคอยน์เป็นหลักฐาน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีวิเคราะห์ว่า แฮกเกอร์กับคนที่รับแลกเงินบิทคอยน์อาจไม่เกี่ยวข้องกัน และการตามจับคนร้ายก็ทำได้ยากมาก ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดหากไม่อยากเสียเงินจ่ายค่าไถ่ คือการสำรองข้อมูลสำคัญเก็บไว้ก่อนทุกครั้งและไม่เผลอคลิกอะไรที่ไม่แน่ใจเด็ดขาด