ประเด็น ต่อ ประเด็น ท่าที “ประยุทธ์” กับ “ประวิตร” เอายังไง บ.ลูกปรีชา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ไม่เพียงรองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย แต่เพราะวันตรงกับกำหนดประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ทำให้บุคคลสำคัญในรัฐบาลมีโอกาสจะชี้แจงและแสดงท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะพี่ชาย ที่แม้วันนี้จะออกตัวว่า ไม่ต้องการขยายความเรื่องนี้ เพราะมี ป.ป.ช.ทำงานอยู่แล้ว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวไล่เรียงคำถามในรายละเอียด นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะตอบทุกประเด็น โดยเฉพาะคำยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมตรวจสอบเรื่องนี้ และหากพบว่าผิดจริง พลเอกปรีชาต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง แม้ส่วนตัวจะรักน้องชายมากก็ต

 

นับว่าเป็นคำตอบที่ชัดเจนในจุดยืนที่สุดของวันนี้ต่อจุดยืนรัฐบาลที่เปิดทางให้หน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบทุกแห่ง ทำหน้าที่พิสูจน์ความโปร่งใสข้อกล่าวหาประโยชน์ทับซ้อนระหว่างลูกชายกับพลเอกปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม

นอกจากจะพูดถึงบทบาทในภาพกว้างต่อเรื่องนี้ วันนี้นายกรัฐมนตรียังตอบในรายละเอียดที่กำลังเป็นที่สงสัยทุกประเด็น แม้บางช่วงจะแสดงอาการไม่พอใจต่อคำถามบ้างก็ตาม อย่างเช่นที่ตั้งของห้างหุ้นส่วนจำกัดคอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น จำกัด ที่อยู่ในค่ายสมเด็จพระเอกกาทศรถ กองทัพภาคที่ 3 และมารู้ภายหลังว่าเป็นบ้านพักของพลเอกปรีชา จันทร์โอชา พลเอกประยุทธ์ ก็บอกว่า ไม่ทราบรายละเอียด และระบุว่าจะไม่ตอบคำถามเหล่านี้อีก เพราะมี ป.ป.ช. รับผิดชอบอยู่ เช่นเดียวกับพลเอกประวิตร

ส่วนข้อสังเกตต่อส่วนต่างระหว่างราคากลางกับราคาจัดซื้อจัดซื้อ 6 โครงการที่บริษัทของลูกพลเอกปรีชาได้งานจากกองทัพภาคที่ 3 ที่ทีมข่าวพีพีทีวีนำเสนอไปเมื่อวันที่ 23 กันยายน หลังพบว่า บางโครงการมีมูลค่าสูงในหลักสิบล้านบาท แต่ราคาจัดซื้อจัดซื้อแตกต่างจากราคากลางเพียงแค่หลักหมื่นบาท

ส่วนต่างระหว่างราคาที่บริษัทลูกพลเอกปรีชาเสนอและได้รับงาน กับ บริษัทคู่เทียบหรือคู่แข่งอย่างบริษัทนำพล ที่พบว่า บางโครงการแพ้ชนะกันเพียงแค่ 1,900 บาท ทั้งที่บริษัทนำพล ปรากฎชื่อเป็นบริษัทที่รับงานจากกองทัพมาแล้วกว่า 100 โครงการ และเฉพาะช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รับงานจากกองทัพ 50 โครง มีโครงการเดียวที่ไม่ใช่ของกองทัพภาคที่ 3 จนเป็นที่สังเกตเป็นไปได้แค่ไหนที่บริษัทที่มีศักยภาพจะไม่รู้ราคากับบริษัทลูกชายพลเอกปรีชา ทั้งที่มีส่วนต่างเพียงแค่หลักพัน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า บริษัทเหล่านี้ ต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด ขณะที่พลเอกประวิตรชี้แจงว่า สาเหตุที่แพ้ชนะกันในหลักพันบาท อาจเป็นเพราะใช้ระบบการจัดซื้อจัดจ้างแบบใหม่ เรียกว่า อี – บิดดิ้ง (e – bidding) ซึ่งจะปิดบังข้อมูลของคู่แข่งรายอื่น

ทีมข่าว PPTV ตรวจสอบข้อมูลที่พลเอกประวิตร ชี้แจง คือ รูปแบบการประราคาแบบอีบิดดิ้ง ตามหลักการสิ่งที่พลเอกประวิตร อาจคาดเคลื่อนกับความตั้งใจนำระบบนี้มาใช้ เพราะคู่มือ วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ แบบ e – bidding ของ กรมบัญชีกลาง พบว่า วิธีประกวดราคาแบบนี้ ป้องกันการฮั้วประมูล ด้วยการไม่เรียกให้คู่แข่งขันมาพบกัน และไม่ต้องมาเคาะราคาที่หน่วยงานจัดการประกวดราคา เพื่อไม่ให้เกิดกระบวนการเรียกรับสินบน แต่ e – bidding ไม่ใช่กลไกที่จะทำให้เกิดปัญหา แพ้ – ชนะ ในราคาใกล้เคียงกัน เพราะมองไม่เห็นราคาของคู่แข่งตามที่ พล.อ.ประวิตร อ้างถึงอย่างแน่นอน

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ