ที่ชุมชนบางหลวงโดด หมู่3 อำเภอบางบาล มีบ้านกว่า 60 หลังคาเรือน ทั้งหมดถูกน้ำท่วมต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 แล้ว ระดับน้ำในหมู่บ้านลึกที่สุดประมาณ 2 เมตร ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำน้อย
เรือพาย จึงกลายเป็น พาหนะจำเป็นในช่วงนี้ขึ้นมาทันที บ้านทุกหลัง นำเรือพายที่เตรียมไว้ใช้ในช่วงน้ำท่วมออกมาใช้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่กังวลกับสถานการณ์น้ำปีนี้ เพราะหากเปรียบเทียบกับปีผ่านๆมาถือว่าเป็นเหตุการณ์ปกติสำหรับพื้นที่ริมแม่น้ำ
โดยพื้นที่ปัญหาน้ำท่วม ส่วนใหญ่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย ครอบคลุม อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล และ อำเภอเสนา ขณะนี้ มีบ้านเรือนประชาชน ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 4000 หลังเรือน ทั้งหมดอยู่ในแนวริมแม่น้ำทั้งหมด
ชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา อธิบายสาเหตุน้ำท่วมปีนี้ว่า ชลประทาน จำเป็นต้องเร่งผันน้ำออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำฝน ที่คาดว่าจะตกหนัก ช่วงต้นเดือนตุลาคม จึงส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ล้นแนวตลิ่ง - ประกอบกับ ปีนี้ยังไม่สามารถผันน้ำรอบริมแม่น้ำ เข้าไปยังพื้นที่รับน้ำได้ตามปกติ เพราะยังติดปัญหาชาวนายังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวไม่หมด จึงทำให้น้ำท่วมยาวนานมากว่า 5 วัน
ชลประทานอยุธยา เตรียมผันน้ำบางส่วนในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เข้าทุ่งป่าโมง ทุ่งผักไห่ แก้มลิงบางบาล และ ทุ่งเจ้าเจ็ด เข้าไปบางส่วนในวันที่1ตุลาคมนี้ เพราะชาวนาเก็บผลผลิตเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าช่วยลดระดับน้ำที่ท่วมขังลงได้ จากเดิมที่คาดว่าจะผันเข้าไปหลังจากนี้