วันนี้ (15 ต.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวัง แจ้งว่า วันนี้สำนักพระราชวังได้ดำเนินการเปิดให้ประชาชนได้ถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย ณ ศาลาสหทัย ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. เวลา 08.30-16.00น. และภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 15 วัน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สำนักพระราชวังจัดได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
สำหรับคณะบุคคลต่างๆ ที่ประสงค์จะนำพวงมาลามาถวายสักการะ จะได้มีการจัดให้วางภายหลัง เมื่อครบกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทั้งนี้สำนักพระราชวังจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขณะที่บรรยากาศตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมารอตั้งแถวเพื่อหวังว่าจะเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้า
ทั้งนี้ประชาชนจึงตัดสินใจก้มลงกราบไหว้ พร้อมถวายพวงมาลัยและดอกไม้ บริเวณประตูวิเศษไชยศรีและบริเวณรอบกำแพง พระบรมมหาราชวังแทน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ
ล่าสุดตำรวจได้เปิดช่องทางจราจรตามปกติ แต่ยังมีประชาชนบางส่วนปักหลักโดยรอบเพื่อถวายสักการะพระบรมศพอยู่
ด้านประชาชนที่มาเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพ ตั้งใจมาต่อแถวตั้งแต่เช้ามืด แม้จะไม่สามารถเข้าได้ แต่ยืนยันจะกลับมาอีกครั้ง เพื่อหวังได้ใกล้ชิดพระบรมศพให้ได้มากที่สุด เพราะถือเป็นบารมีแก่ชีวิต
ส่วนหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดย กำหนดการประจำวันตลอด 100 วัน
ขณะที่บรรยากาศโดยรอบพระบรมมหาราชวัง มีตำรวจและทหาร ประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัยโดยรอบ
อย่างไรก็ตามในช่วงค่ำวันนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย ในเวลา 19.00 น.และจะทรงเข้าร่วมพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในวันที่ 16 ต.ค. 59