สหรัฐฯ ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นประเทศกลุ่มมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เข้ามาสนับสนุนพันธมิตรสมัยสงครามเย็น ในนโยบายที่ชื่อว่า “เอเซียพิวอท” เดินหน้าขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค กับฟิลิปปินส์และประเทศอื่นๆ ที่มีข้อพิพาททางทะเลกับจีน
แต่หลังจาก ดูเตอร์เต้ ชนะการเลือกตั้งและเดินหน้านโยบายกวาดล้างยาเสพติด จนนานาชาติประณามว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์ไม่คารพสิทธิมนุษยชน วาทะกรรมอันรุนแรงของดูเตอร์เต้ต่อโลกตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศแย่ลงมาก จนผู้นำฟิลิปปินส์ประกาศว่าจะยุติปฏิบัติการณ์ซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ลง และการซ้อมปีนี้จะเป็นปีสุดท้าย
กลับกันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคของจีน หลังการเยือนอย่างเป็นทางการของ ดูเตอร์เต้ ครั้งนี้ดูดีขึ้นมาก และแม้ศาลอนุญาโตตุลาการของสหประชาชาติ จะมีคำตัดสินว่าจีนไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย ในการอ้างกรรมสิทธ์สิทธิเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ โดยอ้างหลักฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์ จากเส้นประ 9 เส้น ไปเมื่อช่วงเดือนกรกฏาคม แต่ตอนนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ในยุคประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ ก็ไม่มีเจตนาจะเรียกร้องให้จีนถอนกำลังทหารและหยุดการสร้างเกาะเทียมบนพื้นที่พิพาท
ด้านสื่อตะวันตกมองว่า หนึ่งสาเหตุที่ทำให้ดูเตอร์เต้หันไปหาจีน คือต้องการหาแนวร่วมระดับหมหาอำนาจ ที่จะสนับสนุนนโยบายกวาดล้างยาเสพติดของเขา ขณะที่โลกตะวันตกประณาม แต่การหาเรื่องข้อตกลงการค้า ก็จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฟิลิปปินส์เหมือนกัน เนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญของฟิลิปปินส์
จีนเป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฟิลิปปินส์ โดยฟิลิปปินส์ส่งออกอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคจำนวนมากเข้าจีน และกำลังจะขยายตลาดส่งออกผลไม้และอาหารอีกด้วย แต่ก่อนหน้านี้ประชาชนชาวจีนจำนวนมาก ได้เรียกร้องให้คว้ำบาตรสินค้าฟิลิปปินส์ ซึ่งมีเหตุมาจากประเด็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้