“ประวิตร” เปรย หากปุ๋ยแพง ก็ขายปุ๋ยแทนขายข้าว (คลิป)

วันนี้ (31 ต.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าว หรือ นบข. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันนี้ที่ประชุมมอบหมาย ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. เป็นผู้ดำเนินการโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2559/2560 มีหลักการคล้ายกับการรับจำนำยุ้งฉาง จะเริ่มดำเนินการได้ในวันพรุ่งนี้ หลังคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ

อย่างไรก็ตามรายละเอียดที่ชัดเจนในการประชุมวันนี้ เป็นการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มชาวนาปลูกข้าวหอมมะลิ ซึ่งรับประกันว่าหากเข้าร่วมโครงการและอยู่ในเงื่อนไข ชาวนากลุ่มนี้จะได้รายได้จากการขายข้าวไม่ต่ำกว่าตันละกว่า 14,000 บาท ประกอบด้วย วงเงินสินเชื่อคิดให้ร้อยละ 90 ของราคาข้าวปลือกหอมมะลิตามตลาดที่เวลานี้อยู่ที่ตันละ 9,700 บาท คือ 8,730 บาท ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพตันละ 1,295 บาท ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉางของผู้กู้ ตันละ 1,500 บาท และเงินสนับสนุนต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ 2,591 รวมทั้งหมดจะได้ราคาตันละ 14,116 บาท

ส่วนชาวนาที่ไม่มียุ้งฉางก็จะไม่ได้ค่าเก็บรักษา แต่ก็จะได้ราคาขายตามตลาด คือตันละ 9,700 บาท รวมแล้วกระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า ชาวนากลุ่มนี้ก็ได้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตันละอย่างน้อย 13,586 บาท ส่วนข้าวขาวทั่วไป ก็ยังคงเป็นไปตามเงื่อนไขที่ประกาศก่อนหน้านี้ คือ โครงการรักษาเสถียรภาพข้าว แต่รายละเอียดของตัวเลขในลักษณะเดียวกันจะกำหนกตามออกมาหลังจากนี้

ส่วนสาเหตุข้าวราคาตกและส่งผลให้ชาวนาเดือดร้อนในวงกว้าง นายกรัฐมนตรีเชื่อว่ามาจากปัจจัยทางการเมือง ที่กลุ่มโรงสีร่วมมือกับนักการเมืองกดราคาผลผลิต เพื่อให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาล คสช. ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า สั่งการให้ทหารลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีแล้ว หลังมีเรื่องร้องเรียนว่า อาจมีการโกงในขั้นตอนตรวจวัดความชื้น

ขณะที่ภายหลังจากการประชุมดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่าตนเอง ไม่ได้มีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องราคาข้าว แต่ในภาพรวมรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่ ก่อนที่จะตอบคำถามนักข่าวในประเด็นที่ว่า ราคาปุ๋ยแพงกว่าราคาข้าวรัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างไร โดยพล.อ.ประวิตร ตอบว่า “หากปัญหาอยู่ที่ปัจจัยการผลิตอย่างปุ๋ยมีราคาแพง ก็ควรให้ชาวนาขายปุ๋ยแทนขายข้าว”