ก.พาณิชย์สั่งคุมเข้มราคาสินค้าหลังขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

วันนี้ (16 พ.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ภาวะราคาสินค้าในขณะนี้ยังคงทรงตัว ส่วนค่าแรงขั้นต่ำที่จะมีการปรับขึ้นประมาณ 5 - 10 บาทต่อวัน เบื้องต้นอาจมีผลกระทบต่อราคาสินค้าบ้างแต่ไม่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มของบริการและอาหารสำเร็จรูป ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าอาจใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคา ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จะเฝ้าติดตามและจับตาเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้กรมการค้าภายในเฝ้าติดตามโครงสร้างต้นทุนและราคาสินค้าที่เกิดจากการปรับขึ้นค่าแรง แต่คาดว่าไม่มีนัยยะสำคัญต่อราคาสินค้าโดยรวมให้ปรับสูงขึ้นและไม่เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยรวมพร้อมกันทั่วประเทศ เพราะค่าแรงที่ปรับขึ้นไม่ได้ขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน และเท่ากันทั่วประเทศ หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนสายด่วน 1569 ได้ทันที

ส่วนนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้ คงไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน หรือกระทบต่อต้นทุนปรับสูงขึ้นมาก เพราะเมื่อพิจารณาแล้วปัจจุบันค่าแรงงานคิดเป็นต้นทุนไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของภาคธุรกิจ อีกทั้งหากปรับขึ้นไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ของสัดส่วนค่าแรงทั้งหมด ก็ยิ่งไม่เป็นผลต่อภาคเอกชนในเรื่องของต้นทุนอย่างแน่นอน แต่ก็อาจถึงช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมจะต้องปรับโครงสร้างแรงงานใหม่ โดยจำเป็นต้องมองแรงงานทางเลือก ด้วยการเปลี่ยนถ่ายแรงงานคนสู่เทคโนโลยีมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยังไม่ผ่านมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ เนื่องจากยังติดขั้นตอนปัญหาเรื่องเอกสารที่จะนำเสนอ แต่ปลัดกระทรวงแรงงาน ย้ำว่า จะนำเสนอเรื่องนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า พร้อมยืนยันว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำประจำปี 2560 ในอัตรา 5-10 บาทต่อวัน ในแต่ละพื้นที่นั้น จะบังคับใช้ทันวันที่ 1 มกราคมปีหน้า อย่างแน่นอน