นักปั่นทหารอากาศจากกองการบิน56 ทั้ง8 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรม "ปั่นไปกราบพ่อของเเผ่นดิน" ได้ปั่นจักรยานมาถึงสนามหลวงแล้ว หลังจากเดินทางออกจากกองการบิน56 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันที่16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางทั้งหมด 9 วัน
โดยวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเเม้ตลอดระยะทางพวกเขาจะต้องพบเจอกับอากาศที่ร้อนและอุปสรรคต่างๆแต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ
สำหรับบรรยากาศที่ท้องสนามหลวง ประชาชนยังคงทยอยเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดชกันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมีหน่วยงานภาคเอกชนนำเก้าอี้จำนวน500 ตัวมามอบให้กับกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อบริการให้กับประชาชนที่เดินทางมา กราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ขณะที่พสกนิกรในต่างจังหวัด ต่างร่วมกิจกรรมถวายความอาลัย โดยคณะผู้บริหาร ครู นักเรียน ระดับประถมและมัธยม โรงเรียนบริบาลภูมิเขตต์ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี จำนวน 700 คน ร่วมแปรอักษรเป็นรูปหัวใจสีดำติดปีก ล้อมเลขเก้าไทยสีขาว และ ด้านล่างมีอักษรย่อคำว่า บ.ข. น้อมถวายความอาลัย โดยหัวใจติดปีกซึ่งแสดงถึงสัญลักษณ์ของเทวดาที่นำความรักของลูกหลานชาวบริบาลภูมิเขตต์ ที่มีต่อพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างหาที่สุดไม่ได้
ส่วนที่จังหวัดเชียงราย พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั้งชาวไทยพื้นราบและชาวไทยภูเขาทุกชนเผ่าของอำเภอเชียงของ และชาวลาวจากแขวงบ่อแกว สปป.ลาว จำนวน 1 หมื่น 4 พัน 9 ร้อย 8 สิบ 9 คน ร่วมแปรอักษรเป็นคำว่า ภปร. ภูมิพล มีรูปหัวใจอยู่ด้านข้าง ด้านล่างเป็นคำว่า “เชียงของเมืองสะอาด” พร้อมมีการปล่อยโคมลอย189 ลูกขึ้น สู่ท้องฟ้าเพื่อน้อมเกล้าส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
ด้านทัณฑสถานหญิง จังหวัดพิษณุโลก ผู้คุม และผู้ต้องขังหญิงกว่า 800 คน ได้ร่วมกันวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อนำไปจัดแสดงที่หอศิลป์ สถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อพสกนิกร และในการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขัง