จากกรณีนางสาวสมหญิง พวงพิพัฒน์ อดีตผู้สื่อข่าวพีพีทีวี ปัจจุบันเป็นนักศึกษาปริญญาโท ได้รับใบแจ้งหนี้ว่าค้างค่าชำระบัตรเครดิต จำนวน 2 ใบ รวมจำนวนเงินเกือบ 9หมื่นบาท ทั้งที่ไม่เคยสมัครบัตรเครดิตมาก่อน
โดยล่าสุดผู้เสียหายได้โทรศัพท์สอบถามกับบริษัทที่อ้างว่าได้รับการขายหนี้จากธนาคารไป ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการใดใดได้ เนื่องจากบริษัทเตรียมยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลแล้ว แม้เธอจะยืนยันว่าถูกปลอมแปลงเอกสารทำบัตรเครดิต แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าการแก้ปัญหาต้องรอไปโต้แย้งในชั้นศาลเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้แจ้งความพร้อมยื่นคำร้องกับธนาคารว่าถูกปลอมแปลงเอกสารทำบัตรเครดิต แต่เธอก็ยอมรับว่ายังไม่สบายใจกับสถานะที่ยังตกเป็นหนี้ธนาคารโดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ และที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันกับธนาคารอีกแห่งหนึ่งด้วย
จนทำให้เกิดข้อกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวของเธออาจกลายเป็นข้อมูลสาธารณะไปแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตุถึงการตรวจสอบข้อมูลของธนาคารว่าเหตุใดถึงปล่อยให้มีการนำข้อมูลปลอมไปใช้สมัครเปิดทำบัตรเครดิตได้ง่ายเช่นนี้
ทีมข่าวพีพีทีวี ได้ตรวจสอบข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่ามีผู้บริโภคหลายคนเขียนกระทู้เล่าเหตุการณ์คล้ายกับของนางสาวสมหญิง จำนวนไม่น้อย และเมื่อสอบถามไปที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า เคยมีกรณีดังกล่าวร้องเรียนเข้ามาที่มูลนิธิฯอยู่หลายครั้งด้วยเช่นกัน