วันนี้ (21 ธ.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดีนายณรงค์ โพธิ์เลีย อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดระยอง ผู้พิการทางสายตาและเป็นหมอนวดแผนโบราณอยู่ที่การเคหะปากเกร็ด ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีแทงคนตายและบาดเจ็บ บริเวณตลาดนัดลานดิน ซอยสุขาประชาสรรค์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าช่วงเย็นวานนี้ (20 ธ.ค. 59) น.ส.พรรติกา โพธิ์เลีย อายุ 35 ปี น้องสาวนายณรงค์ พร้อมเพื่อนผู้พิการทางสายตาได้เข้าพบ ร.ต.อ.ปิโยรส ชูกุล ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ปากคำทางคดี
ทั้งนี้นายสหพร นิลม่วง อายุ 40 ปี ผู้พิการทางสายตาและเป็นหมอนวดที่หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายณรงค์ตั้งแต่ปี 40 ตอนที่เรียนอยู่ในศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอดปากเกร็ด ที่เรียนเกี่ยวกับเรื่องนวดแผนโบราณ ซึ่งปกตินิสัยของนายณรงค์ ไม่ใช่คนก้าวร้าวหรือทะเลาะวิวาทกับใคร ซ้ำก่อนหน้าที่จะรู้จักกันเขาเป็นนักกีฬายูโดทีมชาติ ไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่สเปน และลงแข่งเฟสปิกเกมที่คนไทยเป็นเจ้าภาพด้วย จึงไม่เชื่อว่านายณรงค์จะลงมือทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้ได้ อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้เพื่อนตนด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ยศวิน เอี่ยมพุ่ม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า ได้จัดหาทนายมาร่วมรับฟังการสอบปากคำตามกฎหมาย เพื่อดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งก็เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกัน จากนี้จะได้คุมตัวไปสอบสวนก่อนขออำนาจศาลฝากขัง อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสงสัยว่าผู้เสียชีวิตและผู้ตายเป็นเพื่อนกันมานานและมีการนัดหมายให้มาเจอกันก่อน แต่กลับมาเกิดเรื่องแทงกันจนเสียชีวิตได้ จึงต้องสงสัยว่าทำไมถึงต้องแทงกันเอง ผู้ต้องหามีเจตนากระทำผิดหรือไม่ หรือเรื่องประมาท ซึ่งก็ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำพร้อมญาติและทนายความ นายณรงค์เกิดอาการเครียดและป่วยกระทันหัน หน้าซีดเหงื่อออก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาฉุกเฉินที่โรงพยาบาลกรมชลประทานปากเกร็ด ซึ่งต้องรอผลการรักษาอีกครั้ง ว่าจะสามารถสอบปากคำได้อีกครั้งเมื่อไหร่