หลังจากที่ศาลได้ออกหมายจับสมาชิกกลุ่มอัลตร้า ไทยแลนด์ จำนวน 12 คน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุจุดพลุแฟลร์ก่อกวนการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติอินโดนีเซีย
ล่าสุดศาลจังหวัดลำปางได้อนุมัติหมายจับผู้ที่ขายพลุแฟลร์ให้กับกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ ซึ่งเป็นชายชาวจังหวัดลำปาง ในข้อหานำเข้าและมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม โดยจากการติดต่อล่าสุดผู้ที่ถูกออกหมายจับได้เตรียมพร้อมที่จะเดินทางเข้ามอบตัวและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในวันนี้ หลังจากผู้เกี่ยวข้องให้การซักทอดว่าซื้อพลุแฟลร์มาจากพ่อค้าในจังหวัดลำปาง ก่อนจะนำไปจุดในเกมส์การแข่งขันฟุตบอลเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมาในการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศเอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งอาจส่งผลให้สมาคมฟุตบอลไทยรวมทั้งทีมชาติไทยถูกลงโทษจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง แกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ให้การภาคเสธโดยยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจุดพลุแฟลร์แต่อย่างใด จากนั้นได้รับการประกันตัวไปในวงเงิน 5 หมื่นบาท
ด้าน พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้เกี่ยวข้องกับคดีจุดพลุแฟลร์แล้ว 4 คน ประกอบด้วยคนขายพลุที่ย่านบางนา แกนนำกลุ่ม 1 คน และคนจุดพลุอีก 2 คน ส่วนบุคคลที่ถูกศาลออกหมายจับมีทั้งสิ้น 12 คน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ออกหมายเรียกอีก 14 คน โดยกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและเชื่อว่าอีกไม่นานผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับกุมได้อย่างแน่นอน
สำหรับความผิดเกี่ยวกับการจุดพลุแฟลร์ของกลุ่มนี้จะเข้าข่ายวางเพลิงด้วยหรือไม่นั้นคงจะต้องดูข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อน อย่างไรก็ตามทางกองพิสูจน์หลักฐานจะสรุปข้อมูลทั้งหมดเสนอให้พิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย