บ้านเรือนกว่า 200 หลัง ในพื้นที่ 5 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา จังหวัดพัทลุง ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมสูง แม้ฝนจะไม่ตกลงมาเพิ่มแล้ว แต่ระดับน้ำในทะเลสาบยังไม่มีทีท่าจะลดลง ทำให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ น้ำยังไหลท่วมเส้นทางเข้าออกที่พักอาศัย ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้หลายคนต้องเดินลุยน้ำออกมารับความช่วยเหลือ
ขณะที่ ระดับน้ำในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำจากจังหวัดนครศรีธรรมราชไหลเข้ามาสมทบ ทำให้บ้านเรือนบางหลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านอพยพไปอยู่ในที่พักชั่วคราว ขณะที่บางส่วนที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านเรือนของตัวเอง ต้องพายเรือออกมารับความช่วยเหลือจากหน่วยงาน ที่นำสิ่งของมาแจกจ่าย
ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าสถานการณ์ฝนในภาคใต้ได้คลี่คลายแล้ว และเข้าสู่สภาวะปกติตามฤดูกาล แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจในไตรมาสแรกแต่ไม่มากนัก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและธนาคารของรัฐ เร่งออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ และมั่นใจว่าเศรษฐกิจปีนี้ยังขยายตัว ร้อยละ 3.2
นอกจากนี้ ยังมีสถานประกอบการได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 8,000 แห่ง ลูกจ้างกว่า 1 แสนคน ซึ่งทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ขอความร่วมมือนายจ้างผ่อนผันเวลาทำงาน หรืออนุญาตให้ลูกจ้างสามารถหยุดงาน โดยไม่ถือเป็นวันลา และเตรียมช่วยผู้ประกอบการบรรเทาความเดือดร้อนหลังน้ำลด โดยเฉพาะเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
ด้าน กระทรวงคมนาคม ขอความร่วมมือ 7 สายการบินลดราคาตั๋วโดยสารลงภาคใต้ เบื้องต้นหลายสายการบินเริ่มลดราคาตั๋วลงแล้ว อย่างสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ปรับลดราคาลงเหลือ เริ่มต้นที่ 790 บาท สามารถเดินทางได้ถึงวันที่ 31 มกราคมนี้ สายการบินไทยสมายล์ลดราคาเหลือ 999 บาท ประมาณ 400 ที่นั่งต่อวัน ไปจนถึง 20 มกราคม ขณะที่บางสายการบิน ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลง เที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบิน