วันนี้ (27 ม.ค. 60) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศฝรั่งเศสมีกฎหมายฉบับใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ โดยเป็นกฎหมายที่ห้ามไม่ให้ร้านอาหาร โรงอาหารของโรงเรียน หรือสถานที่อื่นๆ ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มในที่สาธารณะ ให้บริการน้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงแบบเติมได้ไม่อั้น
โดยกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาโรคอ้วน ซึ่งปัจจุบันฝรั่งเศสมีประชากรผู้ใหญ่ที่จัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นโรคอ้วน ร้อยละ 15.3 ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของประเทศในสหภาพยุโรปซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 15.9
ตู้กดน้ำอัดลมแบบบริการตัวเองนี้เป็นของคู่กันกับร้านอาหารในหลายๆ ประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ซึ่งกำลังจะเริ่มเก็บภาษีน้ำอัดลมในปีหน้าเช่นกัน
ทั้งนี้ฝรั่งเศสมีการตั้งภาษีน้ำอัดลมและห้ามตั้งเครื่องขายขนมและเครื่องดื่มอัตโนมัติภายในโรงเรียนมาก่อนหน้านี้แล้ว
หลายๆ ประเทศมีการออกมาตรการต่างๆ เพื่อลดการบริโภคน้ำตาล ซึ่งก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ เช่นที่ประเทศเม็กซิโก มีการเก็บภาษีน้ำตาลร้อยละ 10 ทำให้บริโภคน้ำหวานน้ำอัดลมลดลงร้อยละ 6 ในปีแรกหลังบังคับใช้ ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2013 ศาลนครนิวยอร์กมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เทศบาลห้ามร้านอาหารและสนามกีฬาจำหน่ายน้ำอัดลมในแก้วหรือบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุมากกว่า 0.5 ลิตร