การพูดคุยกับผู้บริหารของขสมก.วันนี้(2ก.พ.60) ก็ยังยืนยันว่าจะชะลอการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวีล็อตใหม่ทั้ง 489 คันออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่ากรมศุลกากรของไทยจะตรวจสอบที่มาของรถ ซึ่งขณะนี้ยังรอเอกสารจากกรมศุลกากรของมาเลเซีย
หนึ่งในแผนฟื้นฟูองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.ในการหารายได้เพิ่ม และแก้ไขหนี้ คือ การจัดหารถเมล์เอ็นจีวีล็อตใหม่ของ ขสมก.ยังคงเป็นประเด็นที่พูดคุยกับระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กับ ขสมก. ซึ่งขณะนี้ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อ แต่อยู่ในขั้นตอนการตรวจรับ แต่หากกรณีที่ไม่สามารถรับรถได้และต้องยกเลิกสัญญากับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด รัฐมนตรีว่าการช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังไม่ยืนยันว่าจะมีการจัดหาใหม่หรือไม่ แต่เบื้องต้นระบุว่าจะต้องมีการทบทวนในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใหม่
ส่วนแผนการฟื้นฟูหนี้ที่มีกว่า 1 แสนล้านบาท และภาระขาดทุนที่ขสมก.ต้องแบกรับปีละ 4-5 พันล้านบาท รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ขสมก.จัดทำโมเดลในการจัดการโครงสร้างหนี้เบื้องต้น และแบ่งสัดส่วนของหนี้ทั้งหมดทั้งหมดว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนการที่จะแก้ไขหนี้รัฐบาลอาจจะยังต้องสนับ แต่ถ้าสนับสนุนอาจจะต้องมีการปรับราคาค่าโดยสาร แต่จะให้เป็นทางเลือกสุดท้าย
ขณะที่อีกหนึ่งประเด็นที่ได้มีการหารือวันนี้ คือ การจัดหารถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า จะไม่มีการดำเนินการถอนออกจากการพิจาณาของคณะรัฐมนตรี แต่เพิ่มการศึกษาว่าเหมาะสมที่จะนำมาใช้งานหรือไม่
