จากกรณีเกิดเหตุพนักงานรักษาความปลอดภัยหน่วยงานเอกซเรย์ บริษัท เอเอสเอ็ม แมเนจเมน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ล๊อกซเล่ย์ ที่ทำงานประจำภายในสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 300 คน ได้ร่วมตัวกันหยุดปฏิบัติหน้าที่เมื่อวานนี้ เพื่อประท้วงเรียกร้องให้มีการปรับอัตราเงินเดือน รวมถึงสิทธิต่างๆ ของพนักงาน เช่น ปรับขึ้นเงินเดือนจาก 9,000 บาท เป็น 9,300 บาท บวกค่าทักษะ และค่าเปอร์เซ็นต์รายได้ของแต่ละปี เพิ่มเงินโอทีและโบนัสปีละ 1 เดือน และอื่นๆ
ผลกระทบจากการรวมตัวหยุดปฏิบัติหน้าที่ประท้วงของพนักงานเอกซเรย์ในครั้งนี้ ส่งผลทำให้ผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการต่างพากันหวั่นวิตกและเกิดการสับสนว่าตนเองจะได้ขึ้นเครื่องทันเวลาหรือไม่
ด้านนายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางบริษัท เอเอสเอ็ม ได้แจ้งสาเหตุที่พนักงานบางส่วนหยุดงานเนื่องจากไม่พอใจเรื่องอัตราเงินเดือน ทางด้านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้แก้ไขปัญหา โดยให้เจ้าหน้าที่เอกซเรย์จากท่าอากาศยานดอนเมืองมาเข้าเวรแทน โดยได้เน้นย้ำว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการภายในสนามบิน แต่ขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางขึ้นเครื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิเผื่อเวลาในการเดินทาง 3-4 ชั่วโมงและเหตุการณ์ประท้วงจะต้องจบในวันนี้
ทางด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เปิดเผยว่า บริษัท เอเอสเอ็ม แมเนจเมนท์ จำกัด จะต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งทาง บริษัท เอเอสเอ็ม แมเนจเมนท์ จำกัด จะหมดสัญญากับทาง ทอท.ในปี 2562 และในขณะนี้ทอท.กำลังมองดูแนวทางว่าจะสามารถจัดตั้งบริษัทเพื่อมาดำเนินการเองได้หรือไม่ รวมถึงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีกในอนาคต
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านทางทีมข่าว PPTV ได้โทรศัพท์เข้าไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยได้รับการเปิดเผยว่าในช่วงเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกผู้บริหารบริษัท เอเอสเอ็ม แมเนจเมนท์ จำกัด เข้ามาชี้แจงและพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหาของทางบริษัทว่ามีวิธีแก้ไขและดำเนินการอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สำหรับผลการประชุมคาดว่าการประชุมจะแล้วเสร็จประมาณช่วงเที่ยง ซึ่งทางทีมข่าว PPTV จะนำความคืบหน้าผลการเจรจามารายงานให้ทราบในช่วงข่าวต่อไป
