ตำรวจมาเลเซีย แถลงวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวหญิงชาวเวียดนาม วัย 28 ปี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดา วัย 46 ปี ของนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยหญิงชาวเวียดนามคนดังกล่าวเป็นคนเดียวกับที่อยู่ในภาพจากกล้องวงจรปิดของสนามบินที่ได้มีการเผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ สื่อหลายสำนักรายงาน อ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า นายคิม จองนัม น่าจะถูกวางยาโดยผู้หญิง 2 คนที่เชื่อว่าเป็นสายลับของเกาหลีเหนือ ระหว่างกำลังรอขึ้นเครื่องบินไปมาเก๊า ก่อนจะเสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยนายคิม บอกกับเจ้าหน้าที่ก่อนจะสิ้นใจว่า มีคนฉีดพ่นสารเคมีใส่เขา ขณะที่ สำนักข่าวเทเลกราฟรายงานอ้างแหล่งข่าวตำรวจมาเลเซียว่า นอกจากผู้หญิง 2 คนดังกล่าวแล้ว ยังมีผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นผู้ชายอีก 4 คน
ส่วนเหตุผลว่าทำไมนายคิม จองนัม จึงอยู่ที่ประเทศมาเลเซียนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ก็ต้องบอกว่า มาเลเซียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือ โดยพลเมืองของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางเข้าออกระหว่างกันได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า
ขณะเดียวกัน ตำรวจมาเลเซียยังคงรอผลการชันสูตรเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของนายคิม จองนัม โดยก่อนหน้านี้ ทางเกาหลีเหนือเองได้ร้องขอกับทางการมาเลเซียว่าต้องการนำร่างของนายคิมกลับทันที แต่ทางมาเลเซียปฏิเสธโดยระบุว่าต้องการให้การชันสูตรเสร็จสิ้นก่อน
ด้าน นายฮวาง คโย อัน รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อหารือเป็นการด่วนถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า หากพิสูจน์ได้ว่ารัฐบาลเปียงยางเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ก็จะสะท้อนให้เห็นว่านาย คิม จองอึน โหดร้ายป่าเถื่อนเพียงใด ซึ่งเกาหลีใต้จะเร่งประสานงานกับนานาประเทศเพื่อหามาตรการรับมือกับการยั่วยุของเกาหลีเหนือต่อไป
ส่วนรัฐบาลสหรัฐยังสงวนท่าทีในการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว โดยมองว่าเป็นเรื่องภายในของเกาหลีเหนือ ขณะที่นายเกิ่ง ชวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนได้แถลงวันนี้ว่า รัฐบาลจีนกำลังติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และเข้าใจดีว่าทางการมาเลเซียกำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่
นายคิม จอง นัม เป็นบุตรชายคนโตของ นายคิม จอง อิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือ ถูกขับไล่ออกจากเกาหลีเหนือนับตั้งแต่ปี 2001 หลังจากถูกจับระหว่างพยายามเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยหนังสือเดินทางปลอม โดยอ้างว่าจะไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ จากนั้นเขาและครอบครัวก็ลี้ภัยอยู่บนเกาะมาเก๊านับแต่นั้นมา
คิม จอง นัม เคยประกาศชัดเจนว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจต่อจากพ่อ และเขายังมีแนวคิดไปในทางปฏิรูปและวิพากษ์วิจารณ์ระบบการปกครองประเทศอย่างเปิดเผย ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บิดาของเขาเลือกให้ คิม จอง อึน น้องชายต่างมารดา เป็นผู้สืบทอดอำนาจแทน
มาดูว่านักวิเคราะห์มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ นายคิม ยอง-ฮยุน อาจารย์ภาควิชาเกาหลีเหนือศึกษาจากมหาวิทยาลัยดองกุ๊กในกรุงโซล เชื่อว่า การลอบสังหารน่าจะมีการวางแผนเตรียมการมายาวนาน ซึ่งแม้ว่านายคิม จองนัม จะไม่ได้เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ คิม จองอึน ก็อาจจะมองว่าพี่ชายของตนอาจเป็นขวากหนามได้ในระยะยาว
ความเป็นไปได้อีกอย่างคือ บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนืออาจจะวางแผนสังหารนายคิม จองนัม เพื่อแข่งกันทำผลงานและแสดงความจงรักภักดีต่อผู้นำของพวกเขา
ส่วน นายคิม บย็อง-คี สมาชิกคณะกรรมการข่าวกรองเกาหลีใต้ ก็บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมวันนี้ว่า ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นคนที่มีบุคลิกชอบวิตกกังวล (paranoiac character) และเชื่อว่ารัฐบาลเปียงยางได้มีการเตรียมการลอบสังหารมานานแล้วเช่นกัน
