ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ จะเป็นของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วในปี 59 โดยมีของกลางทั้งหมดกว่า 3.6 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 1,756 ล้านบาท ซึ่งคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกันจัดพิธีทำลายก่อนนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมดไปเผาทิ้งที่จังหวัดนครปฐม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ระบุว่า สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมดนี้ ถือว่ามีจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีการตรวจจับมา สะท้อนให้เห็นรัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้แบบจริงจัง ส่งผลให้การขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งกับร้านค้าและออนไลน์มีจำนวนลดลง และเชื่อว่าจะส่งผลให้ต่างประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น รวมถึงสหรัฐอเมริกาอาจจะพิจารณาสถานะประเทศคู่ค้าไทยให้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ หรือ PWL ต่อเนื่องมานานกว่า 9 ปี
ทั้งนี้ ยืนยันว่า คณะอนุกรรมการปราบปรามฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการร่วมทำงานอย่างจริงจัง แต่ประชาชน คือ ตัวช่วยสำคัญ หากไม่ใช้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ก็จะไม่มีการนำเข้า หรือมีการจำหน่าย