ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความพร้อมภาพ เพื่อเตือนภัยสังคม โดยระบุว่า พี่สาวของตนโดนคนร้ายผู้หญิง 3 คนทำทีเข้ามาสอบถามขอความช่วยเหลือ ก่อนจะโดนคนร้ายล่อลวงไปที่ริมน้ำ ข้างตลาดแห่งหนึ่ง และขโมยสร้อยคอทองคำและเงินสดของผู้เสียหายไป
นอกจากนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ยังเล่าอีกว่า หลังจากนั้นพี่สาวของตนอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้สึกตัว จนมีคนเข้ามาช่วยเหลือและพบว่าเงินและสร้อยคอหายไปแล้ว คาดว่าเกิดจากการโดนป้ายยา ทั้งนี้ผู้โพสต์ยังระบุทิ้งท้ายว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และแค่ต้องการเตือนภัยสังคมไม่ได้ตั้งใจสร้างกระแส
ล่าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง แหม่มโพธิ์ดำ ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า การป้ายยาแล้วลักทรัพย์ไม่มีอยู่จริง ส่วนมากเกิดจากผู้เสียหายถูกผู้ร้ายใช้อุปทานหมู่ล่อลวงทรัพย์
สอดคล้องกับ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ยืนยันกับทีมนิวมีเดียพีพีทีวีว่า ยาป้ายที่ผู้เสียหายอ้างนั้นไม่มีอยู่จริง ส่วนกรณียาป้ายที่เคยเกิดขึ้น ไม่มีคดีไหนที่มีการส่งสำนวนฟ้องศาล รวมถึงไม่เคยมีผู้เสียหายรายใดนำยาป้ายที่กล่าวอ้างมาให้เจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบ ส่วนกรณียาสลบบนรถแท็กซี่ เรื่องนี้ อาจารย์เจษฎา อธิบายว่า น่าจะเกิดจากอาการเมารถ