วันนี้ (22 มี.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่าง พระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยปรับลดเพดานภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่าหรือไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์เหลือ 2% จากเดิม 5% ของฐานภาษี แต่จะมีการปรับเพิ่ม 0.5% ในทุก 3 ปี แต่ต้องไม่เกิน 5%
ส่วนประเภทเกษตรกรรมมีอัตราเพดานไม่เกิน 0.2% ของฐานภาษี ด้านที่อยู่อาศัย ให้มีอัตราเพดานไม่เกิน 0.5% ของฐานภาษี โดยบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 50 ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี และที่ดินการเกษตรราคาไม่เกิน 50 ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี เตรียมเข้าที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ภายใน 2-3 เดือนนี้ ประกาศใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 1 ปี หรือ มีผลต้นปี 2562
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผ่าน ครม. กระทรวงการคลังจะเร่งผลักดันเพื่อบรรจุวาระใน สนช. คาดว่า จะบรรจุวาระในการพิจารณาได้ในเร็วๆนี้ เพื่อเร่งผลักดันให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561 และแม้กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในปี 2561 แต่ในการยื่นเสียภาษีจริงจะมีผลในปี 2562 เนื่องจาก ช่วงระยะเวลาการยื่นชำระภาษีจะดำเนินการภายในเดือนเมษายนของทุกปี
การจัดเก็บภาษีที่ดินจะไม่ทำให้คนจน เกษตรกร หรือคนที่มีบ้านหลังแรกเดือดร้อน เพราะภาษีที่จะเก็บส่วนใหญ่เก็บจากที่ดินเชิงพาณิชยกรรม ที่ดินอุตสาหกรรม และที่ดินเปล่า ซึ่งกฎหมายมีข้อยกเว้นสำหรับบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องเก็บภาษี และที่ดินเกษตรไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
ทั้งนี้ กลุ่มคนที่ถือครองบ้านหลังแรกและเกษตร มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทนั้นคิดเป็น 90% ของผู้ถือครองทั้งหมด ฉะนั้น ภาษีส่วนใหญ่ที่จะเก็บได้จากภาษีที่ดินมาจาก ภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมถึง 90%
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ถือเป็นอัตราการจัดเก็บที่ใกล้เคียงกับร่างเดิมเมื่อปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าที่สุดแล้วอัตราการจัดเก็บภาษีฯจะประกาศออกมาอย่างไร โดยอัตราภาษีดังกล่าว เชื่อว่าจะจูงใจให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินของตัวเองออกมาพัฒนาอสังหาฯ ไม่ปล่อยให้ที่ดินรกร้าง เพื่อลดภาระภาษี