หลังสภาปฎิรูปแห่งชาติ พิจารณารายงานการศึกษาเรื่อง การนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัด ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และ สตูล เป็นเขตมรดกโลก และในที่ประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบ 187 ต่อ 11 เสียง ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ก่อนเสนอต่อยูเนสโก้ ภายในวันที่ 15 เมษายน 2558 นี้
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นจากผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว ในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต พบว่า ส่วนใหญ่ต่างรู้สึกยินดีและเห็นด้วยที่จะให้มีการขึ้นทะเบียนทะเลอันดามันเป็นมรดกโลก เพราะมองว่า ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมทางทะเลของกลุ่มจังหวัดในแถบทะเลอันดามันกำลังเสื่อมโทรมจากการท่องเที่ยว การขึ้นทะเบียนมรดกโลก จะทำให้มาตรการควบคุมดูแลเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติเข้มข้นขึ้น
นายนุชา เพ็ชรวิมล ประธานชมรมเจ็ทสกีหาดป่าตอง เปิดเผยว่า ยินดีหากอันดามันจะกลายเป็นมรดกโลก เพราะเมื่อมีการประกาศเป็นมรดกโลกก็หมายถึงเป็นสถานที่ที่โลกให้การยอมรับ เป็นผลดีที่จะมีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น และในฐานะประธานชมรมเจ็ทสกีหาดป่าตอง และสมาชิกทั้งหมด ก็จะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
ด้าน นางชญพัฒน์ ดาสันทัด แม่ค้าหน้าหาดป่าตอง บอกว่า เห็นด้วยที่จะเสนอให้ทะเลอันดามันเป็นมรดกโลก เพราะจะได้มีการรักษาทรัพยากรธรรมชาติกันมากขึ้น ไม่อยากให้มีการทำลายทรัพยากร เชื่อว่า หากการเสนอเป็นมรดกโลกสำเร็จ จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลดีกับการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเหล่านี้จะไม่กล้าทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย
ขณะที่ นาง ติ๋ม แก้วประเสริฐ นักท่องเที่ยวชาวลาว ที่เพิ่งเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต เป็นครั้งแรก บอกว่า เห็นด้วยหากในอนาคต อันดามันจะได้ยื่นเป็นมรดกโลก เพราะจะทำให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวชื่นชอบหาดป่าตองและภูเก็ตมาก เห็นความสวยงามของชายหาด และน้ำทะเล แล้วอยากกลับมาอีก อยากเชิญชวนให้ชาวลาวได้ลองมาสัมผัสกับชายหาดที่มีความสวยงามของภูเก็ต ที่ในอนาคตข้างหน้าจะกลายเป็นมรดกโลก
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย โดยระบุว่า การเป็นมรดกโลกจะทำให้การองค์กรระหว่างประเทศเข้ามามีบทบาท และแทรกแซงการตัดสินใจของท้องถิ่น รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในบางประการ อาจถูกจำกัดสิทธิ์ไป เพราะอาจจะไม่สอดคล้องกับแนวการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามกฏเกณฑ์ของการเป็นมรดกโลก