ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพนาทีก่อนวิสามัญนายชัยภูมิ ป่าแส ชุดแรกถูกเผยแพร่โดยเฟซบุ๊ก พลเมืองต่อต้าน Single Gateway เมื่อวันที่ 23 มีนาคม เป็นภาพระหว่างที่ทหารกำลังตรวจค้นรถนายชัยภูมิ โดยมีนายชัยภูมิคอยอำนวยความสะดวกด้วยดี ในลักษณะไม่มีท่าทีขัดขืน ในชุเดียวกันยังมีภาพต่อไปถึงเหตุการณ์หลังนายชัยภูมิเสียชีวิต โดยมือข้างขวามีเขม่าดำติดอยู่ และมีดกับเป้ที่วางอยู่กระโปรงด้านหลังของรถ
ภาพชุดนี้ถูกนำเสนอพร้อมกับข้อสังเกตุในหลายประเด็น ประกอบด้วย 1.ภายในรถมียาเสพติดตั้งแต่แรกหรือไม่ เพราะถ้ามีทำไมนายชัยภูมิ จึงขับรถผ่านจุดนี้ ทั้งที่เป็นคนพื้นที่ที่รู้ว่า มีด่านถาวรตั้งอยู่ และตามหลักปฏิบัติของการตรวจค้น เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจอาวุธและค้นตัวบุคคลเป้าหมายก่อนหรือไม่ เหตุใดจึงไม่พบมีดและระเบิดตั้งแต่แรก เพราะภาพที่ปรากฎแสดงเหตุการณ์หลังจากนั้นชัดเจนว่า นายชัยภูมิให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้น และตามคำบอกเล่าของพยานที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า มีการซ้อมนายชัยภูมิ ก่อนจะวิสามัญ อะไรเป็นสาเหตุให้เกิดการซ้อม หลังการตรวจค้นที่นายชัยภูมิที่ไม่ท่าทีขัดขืน โดยสรุปคือเกิดอะไรจากการตรวจค้นครั้งแรกเรียบร้อย
ต่อมาภาพอีกส่วนถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 โดยตั้งข้อสังเกตว่า ในฐานะคนที่มีประสบการณ์ด้านการค้นหาความจริง สามารถตั้งสมมติฐานจากภาพที่พอจะรวบรวมได้ว่า ทหารโบกรถของนายชัยภูมิ ป่าแส และนายชัยภูมิให้ความร่วมมือตรวจค้นเป็นอย่างดีในครั้งแรก
เมื่อกลับเข้าไปในรถและเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้ไป จึงอาจมีเกิดการพูดจาให้เกิดความไม่พอใจ อาจเป็นเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุต่อมา คือ การกระทบกระทั่งถึงขั้นทำร้ายร่างกายตามเบาะแสที่มีพยานเห็นการซ้อมนายชัยภูมิ สอดคล้องกับผลชันสูตรที่นอกจากจะพบร่องรอยกระสุนที่เป็นสาเหตุเสียชีวิต ยังพบบาดแผลที่สะโพกด้านซ้ายและศีรษะ ที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการระบุว่า มาจากสาเหตุใด สมมติฐานที่ตั้งจึงเป็นไปได้หรือไม่ว่า ทหารใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงนายชัยภูมิเสียชีวิต และแก้ไขสถานการณ์ด้วยการนำยาบ้าและระเบิดมายัดให้กับนายชัยภูมิ
นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ระบุว่า ทั้งหมดเป็นเพียงสมมติฐานที่จะชัดเจนก็ต่อเมื่อ เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เรียกร้องว่า อย่ารีบเชื่อภาพถ่ายเหล่านี้ เพราะตามหลักการ สามารถตัดต่อได้ แต่ไม่ได้ขยายความว่า สอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เข้าใจง่าย จนถึงตอนนี้มีประเด็นข้อสังเกตในคดีวิสามัญชัยภูมิที่ต้องพิสูจน์ ประกอบด้วย เหตุการณ์ในกล้องวงจรปิด ที่จะบอกได้ถึงที่มาของระเบิดข้างศพนายชัยภูมิและยาเสพติดจำนวน 2,800 เม็ดภายในเครื่องกรองอากาศรถยนต์ รวมถึง ก่อนเจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงนายชัยภูมิ มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง และมีการซ้อมทรมานจริงหรือไม่ ส่วนความเชื่อมโยงของนายชัยภูมิกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่สงสัยที่มาเงินในบัญชีส่วนตัวของในนายภูมิว่ามีที่มาอย่างไร จากการติดตามมากว่า 1 ปี
ล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยกับทีมข่าว PPTV ว่า เป็นจำนวนเงินในหลักหลายแสนบาทแต่ไม่ถึงล้าน โดยทางฝั่งญาติและคนใกล้ชิดนายชัยภูมิชี้แจงว่า มาจากการขายเมล็ดกาแฟ รวมถึงประวัติเจ้าของเดิมที่นายชัยภูมิซื้อรถต่อมา ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำ เพื่อหาเบาะแสต่อไป