วันนี้ (3 เม.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระบบ จีพีเอส ถูกติดตั้งภายในรถตู้โดยสารทุกคันภายในสถานีขนสงสายใต้เก่า โดยการทำงานของ จีพีเอส ใช้ตรวจวัดความเร็ว และระยะเวลาใช้งานของรถ ส่งไปในระบบของกรมขนส่ง เพื่อตรวจสอบและบังคับให้เป็นไปตามข้อกำหนด มี 4 ลักษณะ คือ การตรวจวัดความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ,การควบคุมชั่วโมงการทำงานของผู้ขับขี่ กำหนดไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และการแสดงตัวตนของผู้ขับรถ ที่ผู้ขับขี่จะต้องรูดบัตรขับขี่สาธารณะก่อนออกเดินทางทุกครั้ง รวมถึงการควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับรถไม่ให้ออกนอกเส้นทาง
ทั้งนี้หากผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ไม่ทำตามข้อกำหนด ผู้ประกอบการ มีโทษปรับสูงสุด ถึง 50,000 บาท ผู้ขับขี่ มีโทษปรับ 5,000 บาท
เช่นเดียวกับ ใบรายการตรวจสอบรถโดยสารและผู้ขับรถประจำวัน ระบุข้อบังคับการตรวจสอบสภาพรถตู้โดยสารอย่างละเอียด เช่นระบบสัญญานไฟ เข็มขัดนิรภัย สภาพบุคคล และตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ และรูดบัตรประจำตัวผู้ขับขี่เปิดจีพีเอส ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง หากไม่ทำตาม กรมขนส่งทางบกจะมีคำสั่งให้หยุดบริการทันที
ส่วนการปรับที่นั่งผู้โดยสาร ที่กำหนดให้เหลือแค่ 13 ที่นั่ง จากเดิม 15 ที่นั่ง นายสมหวัง ทองขาว ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่ง กรุงเทพพื้นที่ 2 ได้ชี้แจงกับผู้ประกอบการ ถึงความจำเป็น เพื่อกำหนดให้เป็นช่องทางฉุกเฉิน เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 5 เมษายน โดยให้ระยะเวลาในการดำเนินการ 60 วัน ก่อนจะเข้าตรวจสภาพรถตู้อีกครั้ง
ด้านสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด มองว่ามาตราการนี้ เร็วเกินไปที่จะบังคับใช้ เพราะระยะเวลาในการแก้ไขน้อยเกินไป และอยากให้เพิ่มกำหนดความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนความพร้อมในการให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รถตู้โดยสารที่ติดตั้งระบบ "จีพีเอส" จำนวนรถทั้งสิ้น 1,188 คัน ภายในสถานีแห่งนี้ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเสียงประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับมาตราการที่ออกมาในครั้งนี้