การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากยานอวกาศแคสซินี่ซึ่งองค์การการบินและอวกาศของสหรัฐฯ หรือนาซาส่งไปสำรวจดาวเสาร์ตั้งแต่ปี 2004 ได้พบหลักฐานของแก๊สโมเลกุลไฮโดรเจนในไอน้ำที่ระเหยผ่านชั้นน้ำแข็งหนาทึบที่ปกคลุมดวงจันทร์เอนเซลาดัส หนึ่งในดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์
โดยแก๊สโมเลกุลไฮโดรเจนที่พบมีความเป็นไปได้สูงว่าจะมาจากรอยแยกของเปลือกดวงจันทร์ดังกล่าวอันเป็นผลจากการทำปฏิกิริยากันระหว่างหินร้อนและน้ำที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งหนาทึบ ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับการกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนโลก
สำหรับแก๊สโมเลกุลไฮโดรเจนทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารชั้นดี ขณะที่สิ่งมีชีวิตเกือบทั้งหมดที่ถือกำเนิดบนโลกในระยะเริ่มแรกยังใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงาน
นักวิทยาศาตร์เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่อาจอาศัยบนดวงจันทร์เอนเซลาดัสอาจกินไฮโดรเจนชนิดดังกล่าวเป็นเป็นอาหาร และปล่อยแก๊สมีเทนออกมา ซึ่งก็มีการตรวจพบในดวงจันทร์ดังกล่าวเช่นกัน
นอกจากนี้ยานแคสซินี่ยังตรวจพบแก็สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อรวมกับแก๊สโมเลกุลไฮโดรเจน จะช่วยสนับสนุนกระบวนการ “มีเทนเจโนสิส” ซึ่งก่อกำเนิดแก๊สมีเทน ที่เป็นปัจจัยที่ช่วยหล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ต้องอาศัยในสภาพแวดล้อมอันนมืดมิดใต้ทะเลลึกของโลก
โดยนาซา ระบุว่า การค้นพบดังกล่าวยังไม่เป็นการยืนยันว่ามีสิ่งชีวิตบนดวงจันทร์เอนเซลาดัสจริง แต่จะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับการค้นคว้าและสำรวจดวงจันทร์ดังกล่าวต่อไป