ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพบรรยากาศขนสัมภาระทั้งข้าวสาร และอาหาร ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนนำติดตัวกลับมาจากภูมิลำเนา โดยวันนี้ยังมีประชาชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครไม่มากนัก ทั้งที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต สายใต้ และเอกมัย จำนวนประชาชนเดินทางกลับประมาณ 150,000 คน โดยคาดว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ไปจนถึงวันที่ 18 เมษายน ประชาชนจะเดินทางกลับเพิ่มขึ้น เฉลี่ยวันละประมาณ 170,000 คน โดยทาง บขส. จึงเตรียมเพิ่มรถรองรับประชาชนเป็นวันละ 7,000-8,000 เที่ยว ทั้งรถตู้และรถทัวร์
สำหรับที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางกลับแล้ว แต่ยังไม่มากนัก การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้เพิ่มรถไฟขบวนพิเศษไว้รองรับประชาชน รวม 13 ขบวน เพื่อรับผู้โดยสารกลับจากสายอีสานและสายเหนือตอนล่าง พร้อมกับเตรียมเพิ่มตู้โดยสารในขบวนรถไฟจากสายเหนือและสายใต้ 1-5 ตู้ต่อขบวน หากมีประชาชนเดินทางกลับมากขึ้น
ส่วนที่สถานีขนส่งจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 2 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนทยอยซื้อตั๋วโดยสารเดินทางกลับทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด และคาดว่าประชาชนจะหนาแน่นขึ้นในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ โดยทางขนส่งจังหวัดเตรียมรถโดยสารไว้ให้บริการวันละ 400 เที่ยว สามารถรองรับประชาชนได้วันละ 2 หมื่นคน และได้ประสานผู้ประกอบการให้จัดเตรียมรถเสริมอีก 100 คัน เพื่อป้องกันผู้โดยสารตกค้าง ส่วนการจราจรบนถนนมิตรภาพ เส้นบายพาสนครราชสีมา เริ่มมีรถมากตั้งแต่ช่วงสาย ทำให้บริเวณสะพานต่างระดับเชื่อมต่อถนนมิตรภาพ กับถนนสาย 304 รถชะลอตัวเล็กน้อย แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ดี
ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจทางหลวง ติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วบนถนนสายเอเชีย เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิด เพียง 2 ชั่วโมงพบผู้ใช้รถขับรถเร็วเกินกำหนดกว่า 300 คัน และยังคงมีผู้ฝ่าฝืนต่อเนื่อง โดยดำเนินการตรวจเข้มตลอดทั้งวันจนสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งใบสั่งปรับถึงบ้าน ส่วนสภาพการจราจรวันนี้มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 และหนาแน่นมากช่วงอำเภอไชยา ซึ่งมีสัญญาณไฟจราจรหลายจุด เจ้าหน้าที่เร่งระบายการจราจร
