เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยคนร้ายกว่า 50 คนพร้อมอาวุธหนักและระเบิด บุกชิงตู้นิรภัยซึ่งเก็บเงินสดได้ประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเกือบ 1,400 ล้านบาท ของบริษัทโปรเซกูร์ ผู้ให้บริการรถขนเงินในเมืองซุยแดด เอล เอสเต เมืองชายแดนของปารากวัยซึ่งอยู่ติดกับประเทศบราซิล
โดยหลังเกิดเหตุปล้นเงิน ตำรวจปารากวัยได้ยิงปะทะกับคนร้ายนาน 2 ชั่วโมง ซึ่งคนร้ายใช้ทั้งระเบิด,ปืนลำกล้องใหญ่และปืนสไนเปอร์ตอบโต้เจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ก่อนที่กลุ่มคนร้ายสามารถหลบหนีเข้าไปยังประเทศบราซิล
อย่างไรก็ตาม ทางการปารากวัยได้ติดต่อประสานงานกับทางการบราซิล ซึ่งส่งกำลังตำรวจเข้าสกัดจับคนร้ายที่ ทำให้เกิดการยิงต่อสู้กันอีกรอบ โดยคนร้ายถูกตำรวจบราซิลสังหาร 3 คน และ 10 คนถูกจับกุมตัวเอาไว้ได้
กระทรวงมหาดไทยปารากวัย แถลงว่า เจ้าหน้าที่สามารถยึดอุปกรณ์ต่างๆ ของกลุ่มคนร้ายได้เป็นจำนวนมาก เช่นยานพาหนะ, เสื้อเกราะกันกระสุน, เสื้อชูชีพ, ปืนกล, เครื่องกระสุน, ระเบิด รวมทั้งเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนกลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะมาจากประเทศบราซิล เนื่องจากพยานได้ยินคนร้ายพูดกันเป็นภาษาโปรตุเกส ซึ่งเป็นภาษาราชการของบราซิล