เปิดภาพวงจรปิดมุมใหม่ คดี “ดีเจเชาเชา” ชนจยย. เสียชีวิต


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังเกิดเหตุดีเจเชาเชา ขับรถชนมอเตอร์ไซด์วัยรุ่นเสียชีวิต โดยมีข้อเท็จจริงที่ยังไม่ตรงกับฝ่ายแม่ผู้เสียหายอีกหลายประเด็น และต้องรอพิสูจน์ แต่เบื้องต้นดีเจเชาเชายืนยันทั้งน้ำตาว่า ตัวเองรู้สึกสะเทือนใจและไม่เคยนอนหลับสนิท นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ได้ชนแล้วหนีอย่างที่ฝ่ายผู้เสียหายพยายามชี้ประเด็น

วันนี้ (5 พ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดีเจเชาเชา หรือนายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม เล่าทั้งน้ำตาว่า นาทีที่เกิดเหตุขับรถชนรถจักรยานยนต์วัยรุ่นเสียชีวิต เป็นช่วงจัดรายการวิทยุเสร็จและอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านตามปกติ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณถนนตัดใหม่วัชรพล มีวัยรุ่นจอดรถจักรยานยนต์อยู่เป็นกลุ่ม ก่อนมีคันหนึ่งพุ่งออกมาอย่างกระทันหัน จึงเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ขึ้น ระหว่างชี้แจงถึงจุดนี้ ดีเจเชาเชาใช้คำว่า ตัวเองขับรถมาอย่างระมัดระวังแล้ว ตั้งแต่จังหวะที่เห็นวัยรุ่นรวมตัว

ส่วนประเด็นชนแล้วหนี ดีเจเชาเชา ปฏิเสธว่า ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะหลังเกิดเหตุ เขาเป็นคนนำตัวคู่กรณีส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง โดยตลอดการแถลงดีเจเชาเชาและทนายความพยายามเน้นย้ำว่า ในมุมของเขา อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่การขับรถโดยประมาท แต่เป็นเหตุสุดพิสัย

ขณะเดียวกันวันนี้มีภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม ที่แสดงภาพเหตุการณ์ของอุบัติเหตุครั้งนี้ชัดเจนขึ้น ตามภาพรถของดีเจเชาเชา วิ่งมาตามทิศทางที่ให้การ และมีวัยรุ่นรวมตัวอยู่บริเวณใต้สะพานพร้อมรถมอเตอร์เป็นกลุ่มจำนวนหลายคันจริง ก่อนที่รถของดีเจเชาเชาขับมาถึงจุดเกิดเหตุ และชนกับรถคู่กรณี โดยจังหวะชนอยู่บนพื้นถนนในช่องจราจรที่รถของดีดีเชาเชาวิ่งมา ก่อนที่รถมอเตอร์ไซค์ของผู้เสียชีวิตจะเสียหลักพุ่งในกระแทกกับฟุตบาทในช่องทางขวาสุด  

ภาพนี้สอดคล้องกับกราฟิกจำลองเหตุการณ์ ที่ทีมข่าว PPTV ประมวลจากคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์และนำเสนอไปเมื่อวานนี้ แต่ยังบอกได้ยากว่า การมาอยู่ในช่องจราจรเดียวกับรถดีเจเชาเชาของรถมอเตอร์ไซด์ผู้เสียชีวิต มาจากการหนีกลุ่มวัยรุ่นที่ปาก้อนหินมาจากบนสะพาน หรือ พุ่งออกมาเพื่อเตรียมแข่งรถ เพราะแสงสว่างในกล้องวงจรปิดยังไม่เพียงพอ

ข้อมูลนี้มีส่วนสำคัญต่อคดี เพราะจะทำให้ทราบถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ซึ่งวันนี้ดีดีเชาเชา พยายามอธิบายว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ความประมาท เพราะขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นข้อหาหลักในจำนวน 3 ข้อหาที่ตำรวจตั้ง ซึ่งหากพิสูจน์ให้ศาลเชื่อได้ว่า ดีเจเชาเชาไม่ได้ประมาท ก็อาจจะทำให้เขาหลุดจากความผิดนี้ ซึ่งมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท เหลือเพียงแค่ข้อหาใบขับขี่และพ.ร.บ.หมดอายุเท่านั้น

ส่วนเรื่องนี้ความพยายามในการเยียวยาหรือไม่ ก็มีผลต่อคดีอย่างมาก ทีมข่าว PPTV สอบถามนักกฎหมาย พบว่า คดีลักษณะนี้ หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยเยียวยาความเสียหายแล้ว แม้พยานหลักฐานจะบ่งชี้ว่าประมาท โทษที่ได้รับก็อาจจะมีคำสั่งให้รอลงอาญาไว้ก่อน


TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ