ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรับปากว่าจะจัดสรรตำแหน่งข้าราชการให้กับพยาบาล ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี วันนี้ ถือว่าสวนทางจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ไม่ อนุมัติการบรรจุข้าราชการพยาบาล 10,992 อัตรา และถือเป็นการการันตีว่า ในสัปดาห์หน้า เมื่อกระทรวงสาธารณสุขนำเรื่องเสนอขอบรรจุพยาบาลเป็นข้าราชการ เรื่องนี้จะได้รับการอนุมัติ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการไฟเขียวครั้งนี้ นอกจากการยืนยันข้อมูลความจำเป็นในการต้องบรรจุพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวคัดค้านมติเดิมและการยื่นคำขาดว่าจะลาออกของกลุ่มพยาบาลวิชาชีพ
ภาพรวมของพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศ ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 160,000 คน แบ่งเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน 30,000 คน พยาบาลในโรงพยาบาลรัฐ 130,000 คน ในจำนวนนี้เป็นพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 100,000 คน มีตำแหน่งข้าราชการ 87,000 คน เป็นพนักงานข้าราชการและลูกจ้างประจำ 13,000 คน
วิธีการคิดสัดส่วนจำนวนพยาบาลจะคิดจากจำนวนคนไข้ที่ต้องดูแลต่อจำนวนพยาบาล1คน แต่จะต้องคูณด้วย 3 เพราะ ตลอด 24 ชั่วโมง พยาบาลต้องสลับเข้าเวรดูแลผู้ป่วย 3 เวร ซึ่งหากคิดตามสัดส่วนนี้อุปนายกสภาการพยาบาล ระบุว่า โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จะต้องมีพยาบาลทั้งหมด 120,000 คน
คำถามที่ตามมาหลังมีทิศทางว่าคณะรัฐมนตรีจะอนุมัติตำแหน่งข้าราชการให้พยาบาล คือ ข้อกังวลว่าในอนาคตอาจจะมีการขอตำแหน่งข้าราชการแบบนี้อีกหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ อุปนายกสภาการพยาบาล ยืนยันว่า นอกจากการเพิ่มคนแล้วกระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางผลักดันการบริการด้านสุขภาพอื่นๆเพื่อรองรับปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล
สำหรับการบรรจุพยาบาลเป็นข้าราชการ หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติตำแหน่ง 8,900 อัตราในสัปดาห์หน้า จะส่งผลทำให้สามารถเปิดตำแหน่งบรรจุได้มากกว่า 5,000 ตำแหน่ง คือเป็นตำแหน่งเดิมที่กระทรวงสาธารณสุขจัดสรร 2,200 อัตรา กับอัตราใหม่ที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติประมาณ 2,900 อัตรา ส่วนปี 2561 และ 2562 จะเปิดบรรจุเพิ่มปีละประมาณ 2,900 คน รวมกับตำแหน่งทดแทนพยาบาลเกษียณในแต่ละปี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้บรรจุตามนี้ แต่กลุ่มสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ก็ยังไม่พอใจกับมตินี้ เนื่องจากข้อเรียกร้องที่ผ่านมา คือ การขอให้บรรจุ 10,992 อัตรา ภายในปีนี้ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น กลุ่มสหภาพมองว่า ทุก 3 ปีก็จะมีปัญหาแบบเดิมอีก
