วันนี้ (22 พ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายจะเริ่มให้บริการระบบตั๋วร่วมหรือตั๋วแมงมุมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับ มาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายนนี้ รวมถึงรองรับการใช้บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลังที่จะเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
เบื้องต้นระบบตั๋วร่วมจะใช้กับ ขนส่งมวลชนได้ 5 ระบบ คือ 1. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT 2. รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่- บางซื่อ 3. รถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือ BTS 4.รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ และ 5.รถเมล์เอ็นจีวี ของ ขสมก.
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม บัตรแมงมุมจะ ใช้กับรถไฟฟ้าได้ทั้ง 4 เส้นทาง แต่จะนำร่องเฉพาะบริเวณสถานีร่วมก่อนเช่น สถานีจตุจักร,หมอชิต,อโศก,พญาไท จากนั้นจะเร่งติดตั้งในสถานีที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งได้ครบสมบูรณ์ ทุกสถานีในเดือนมีนาคมปีหน้า
สนข. มั่นใจว่าระบบตั๋วร่วมจะดึงดูดประชาชนให้ใช้บริการขนส่งมวลชน มากขึ้น เพราะมีความสะดวกในการเชื่อมต่อ การเดินทางทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ และเรือ โดยระบบตั๋วร่วมจะจัดเก็บข้อมูลการเดินทาง ของประชาชน ทำให้สนข.สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาประเมินแนวโน้มรายได้ของ ผู้ให้บริการแต่ละราย ถ้าหากรายใดมีรายได้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนข. ก็อาจเจรจาขอให้ ปรับลดอัตราโดยสารลงได้เพื่อช่วยลดภาระ ให้กับประชาชน
สำหรับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยนั้น จะสามารถใช้กับระบบตั๋วร่วมได้ทั้ง 5 ระบบ โดยภาครัฐจะกำหนดวงเงินในบัตรสวัสดิการฯทุกเดือนและเมื่อนำบัตรไปใช้ กับระบบตั๋วร่วมก็จะถูกหักเงินตามอัตราค่าโดยสารจริง ถ้าหากผู้มีรายได้น้อยเลือกใช้ บริการรถไฟฟ้า ซึ่งมีราคาสูงกว่ารถเมล์ก็อาจทำให้เงินในบัตรหมดเร็ว ถ้าหากประชาชน ต้องการประหยัดค่าเดินทางและยืดอายุวงเงินในบัตร ก็สามารถเลือกใช้บริการรถเมล์ ขสมก. เนื่องจากมีอัตราค่าโดยสารถูกกว่ารถไฟฟ้า
