พิธีเปิดอนุสรณ์รำลึกเหตุก่อการร้ายเครื่องบินพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ 11 กันยายน 2001 ถูกจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่นาโต้ ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเยอรมนี ก่อนการประชุมผู้นำนาโต้จะเริ่มขึ้น
เหตุก่อการร้ายเมื่อ 16 ปีก่อนหล่อหลอมชาติพันธมิตรนาโต้ให้เป็นหนึ่งเดียว กองกำลังจาก 28 ชาติสมาชิกนาโต้หลายแสนนาย ถูกส่งไปช่วยสหรัฐฯ ปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ทั้งในอัฟกานิสถานและอิรักหลังเหตุการณ์ดังกล่าว นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่นาโต้ปฏิบัติการทางทหารร่วมกันเพื่อปกป้องชาติสมาชิกที่ถูกโจมตี ตามบทบัญญัติมาตรา 5 ของสนธิสัญญานาโต้
ในพิธีรำลึก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงถูกคาดหวังให้กล่าวสุนทรพจน์รับรองมาตรา 5 ดังกล่าว ตามธรรมเนียมที่ผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนปฏิบัติกันมานับตั้งแต่ก่อตั้งนาโต้ แต่ทว่า ทรัมป์ เลือกที่จะไม่กล่าวถึง ในทางตรงกันข้าม เขาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกตั้งงบประมาณด้านการทหารสำหรับนาโต้ให้ถึง 2% ของ GDP ตามข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 5 ชาติสมาชิก จาก 28 ชาติสมาชิก รวมทั้งสหรัฐฯ ปฏิบัติตาม
สำหรับทรัมป์ นาโต้จึงเป็นเรื่องของธุรกิจและตัวเลขอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต่างจากหลายๆเรื่องที่เขาใช้วิธีบริหารธุรกิจมาจัดการ หากแต่รากฐานขององค์กรที่เกิดจากการรวมตัวกันเพื่อความมั่นคงอย่างนาโต้ คือความเชื่อมั่นระหว่างกัน โดยเฉพาะในภาวะที่ประสบกับภัยคุกคามจากภายนอก ความเชื่อมั่นและความทุ่มเทจะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวชาติพันธมิตรให้พร้อมร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน เมื่อทรัมป์ไม่รับรองว่าจะช่วยเหลือชาติพันธมิตรหากถูกโจมตี แล้วยังกระตุ้นให้จ่ายเงินเพิ่ม คำถามคือ ชาติสมาชิกจะเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องทำตามหรือไม่
แต่ดูเหมือนว่า ท่ามกลางความคาดหวังและข้อตกลงแลกเปลี่ยนอย่างอ้อมๆ ทรัมป์ได้รับชัยชนะแล้วเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ การตอบตกลงเข้าร่วมปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายไอเอสอย่างเป็นทางการของนาโต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์เรียกร้องมาตลอด และระยะหลังก็มีอังกฤษร่วมเรียกร้องด้วย หลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่เมืองแมนเชสเตอร์
อย่างไรก็ตาม ท่าทีเห็นคล้อยไปกับทรัมป์ของนาโต้ มีความหมายเพียงนัยยะทางการเมืองเท่านั้น เพราะปัจจุบัน ชาติสมาชิกนาโต้ทั้ง 28 ชาติต่างก็ร่วมปฏิบัติการต่อต้านไอเอสอยู่แล้ว แม้ว่าบางชาติจะมีบทบาทเพียงแค่สนับสนุนก็ตาม และการเข้าร่วมอย่างเป็นทางการของนาโต้ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของสงครามต่อต้านการก่อการร้ายมากนัก เห็นได้จากการประกาศจุดยืนของเลขาธิการนาโต้ ว่าชาติสมาชิกจะสนับสนุนเพียงเครื่องบินสอดแนม การช่วยฝึกทหารอิรัก และตั้งศูนย์ประสานงานข้อมูลเท่านั้น
เป็นที่ชัดเจนว่า การที่นาโต้เข้าร่วมปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายภายใต้การนำของสหรัฐฯ แตกต่างจากที่นาโต้เคยสนับสนุนสหรัฐฯ เมื่อครั้งเหตุการณ์ 11 กันยายนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสาเหตุนั้นอาจมองได้หลายมุม เช่น เป็นเพราะภัยคุกคามเวลานี้ยังไม่เด่นชัดเท่าครั้งนั้น หรืออีกประการก็คือ บทบาทของนาโต้และบทบาทของสหรัฐฯ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป