วันนี้ (8 มิ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งรายจ่ายปี 61 ไว้ที่ 2.9 ล้านล้านบาท เป็นตัวเลขที่สูงกว่ารายได้ประเทศ ถึง 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งหมายความว่าเป็นการตั้งงบประมาณ แบบ “ขาดดุล”
ร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2561 ที่เข้าพิจารณาของ ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาอภิปรายประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนลงมติรับหลักการในวาระแรก พร้อมกับตั้งคณะกรรมการวิสามัญ ที่มี รัฐมนตรีว่าการกระรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน มาศึกษาและแปรญัตติ
งบประมาณรายจ่าย ปีงบประมาณ 2561 คณะรัฐมนตรี ตั้งงบไว้ที่ 2.9 ล้านล้านบาท ปรับลดลงจากปี 60 จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายจ่ายประจำร้อยละ 74.2 และเป็นงบลงทุนร้อยละ 22 ของวงเงินงบประมาณ
ในรายละเอียด รัฐบาลตั้งงบกลาง ในการดูแลของสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ไว้กว่า 7.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ปีที่แล้ว 5.4 พันล้านบาท
ขณะที่ กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งงบประมาณรายจ่าย มากที่สุด ไว้สูงถึง 510 ล้านบาท รองลงมาเป็นกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง ส่วนกระทรวงกลาโหม ได้งบประมาณมาสุดเป็นอันดับ 4 จำนวน 222 ล้านบาท
โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมคำชี้แจงแถลงต่อ สนช. ไว้ถึง 138 หน้า เพื่อยืนยันความจำเป็นการจัดทำงบประมาณให้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ที่ พลเอกประยุทธ์ พยายามสื่อสารว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ ควรมี เพื่อป้องปรามการคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
ขณะที่การจัดหารายได้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลยังไม่มีความคิดขึ้นภาษีเงินได้ หรือ VAT เพื่อเพิ่มรายได้ให้รัฐในเวลานี้ แต่พยายามปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับสภาพสังคม เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ภายหลังที่นายกรัฐมนตรี ชี้แจงจบแล้ว จากนี้จะมีสมาชิก สนช. 18 คน ที่ขออภิปรายร่างงบประมาณฉบับนี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนลงมติรับหลักการในวาระ 1 ต่อไป
