นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาการใช้ราคากลาง เพราะหากใช้ราคากลางตามที่บริษัทเบสท์รินกรุ๊ปชนะการประมูลไปครั้งก่อน คือ 3,387 ล้านบาท เป็นราคาที่ประมูลไม่สำเร็จ และยังไม่รวมภาษีนำเข้าอีก 40 % แต่หากให้ล้มการประมูลและต้องเริ่มต้นใหม่ หากไม่ทันจัดหารถมาให้บริการตามกรอบที่ตั้งไว้ในช่วงปลายปี 2560 แต่หากใช้ราคาเดิม หรือ 4,021 ล้านบาท จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที หากราคาประมูลในครั้งนี้มีต้นทุนที่สูงกว่า ทาง ขสมก.ก็จะดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทเบสท์รินกรุ๊ปในส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น
รองปลัดกระทรวงคมนาคม คาดว่า ประมาณวันที่ 6-8 กรกฎาคมนี้ จะสามารถได้ตัวผู้ชนะการประมูล ส่วนกระแสข่าวที่สถาบันการเงินไม่พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้เพราะเห็นว่าโครงการไม่มีความน่าเชื่อถือนั้น ขอยืนยันว่าตัวโครงการไม่มีปัญหา แต่เป็นเพราะภาคเอกชนบางรายขาดความโปร่งใส
ส่วนปัญหาระหว่าง ขสมก.กับบริษัทเบสท์รินกรุ๊ป ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามการฟ้องร้องของบริษัทเบสท์รินว่าจะมีทั้งหมดกี่เรื่อง เพื่อที่จะทำการชี้แจงต่อศาลพร้อมกันทุกเรื่อง แต่ในเบื้องต้นได้ยึดวงเงินค้ำประกันมาแล้ว 338 ล้านบาท และค่าปรับในส่วนที่เหลือจะพิจารณาฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายในลำดับถัดไป
ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ขสมก. ก็จะมีการลงนามสัญญาจ้าง บริษัท ช.ทวี จำกัดติดตั้งระบบ E-Ticket รถเมล์ ขสมก. 2,600 คัน วงเงินประมาณ 2,600 ล้านบาท ซึ่งย้ำการประมูลมีความโปร่งใส หลังกลุ่มบีทีเอสยื่นฟ้องศาลปกครองว่าการประมูลไม่โปร่งใส ชี้กลุ่มบีทีเอส ขาดคุณสมบัติเอง เพราะไม่มีเอกสารครบตามที่ทีโออาร์ระบุไว้
