วันนี้ (18 มิ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถ้านับการเปิดเวทีครั้งนี้ นี่ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่มีประชาชนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน และเป็นเวทีสุดท้ายเพราะพวกเขามองว่า นอกจากการแก้ไขกฏหมายฉบับนี้ไม่ตอบโจทย์ปัญหาที่แท้จริงของบัตรทองแล้ว องค์ประกอบของคณะทำงานแก้ไขกฎหมายที่ตั้งขึ้นมา มีสัดส่วนจากภาคประชาชนน้อยเกินไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมหอประชุมเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นมา จากประชาชนฝ่ายคัดค้าน คู่ขนานไปกับเวทีประชาพิจารณ์ที่จัดขึ้นภายในหอประชุม ที่จำนวนคนทั้งสองจุด ดูเหมือนไม่สัมพันธ์กัน เช่นเดียวกับประเด็นการพูดคุยที่ ฝั่งผู้คัดค้านจะนำเรื่องข้อเสียที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนหลังกฏหมายฉบับนี้ถูกแก้ไขสำเร็จ ขณะที่เวทีประชาพิจารณ์ก็เดินหน้ารับฟังความเห็นจากนักวิชาการ และประชาชนไปด้วย
ก่อนกิจกรรมจะยุติลง ตัวแทนประชาชนจากแต่ละภาค. อ่านแถลงการณ์และกำหนดจุดยืนต่อการออกมาร่วมคัดค้าน มีสาระสำคัญ ระบุว่า ให้ยุติการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน ขณะที่สัดส่วนคณะทำงานแก้ไขกฎหมาย ที่ตั้งขึ้นมา มีสัดส่วนของคณะทำงาน 26 คน แต่มีตัวแทนของภาคประชาชนเพียง 2 คน กังวลว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการจากกระทรวงสาธารณสุขมากกว่า ประโยชน์ของประชาชน
แม้จะเป็นเวทีประชาพิจารณ์เวทีสุดท้าย แต่การคัดค้านจากประชาชนก็ยังคงเกิดขึ้น ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ คณะกรรมพิจารณาร่างกฎหมายฯจัดเวทีไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ถูกคัดค้านจากประชาชนที่เห็นว่าการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระบวนการจัดเวทีเป็นไปตามขั้นตอนแต่ไม่รับฟังเสียงประชาชนที่แท้จริง และอ้างว่า พรบ.ฉบับนี้มีแนวทางที่ชัดเจนอยู่แล้ว แม้ว่าประชาชนจะแสดงความคิดเห็นในเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ก็จะไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงได้ หรือเนื้อหาที่คณะกรรมการร่างไว้ได้ ทำให้ไม่เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างเท่าเทียม