แพทย์หญิงทิพวรรณ บูรณสิน จิตแพทย์เด็ก สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เปิดเผยถึงกระแสโลกออนไลน์ "มีได้ก็เลี้ยงได้" ว่า เรื่องดังกล่าวต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรกปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และประเด็นที่ 2 การใช้โซเชียลมีเดียที่ไม่เหมาะสม เพราะข้อมูลที่โพสต์บางครั้งเป็นสิ่งที่เปราะบาง มีผลต่อความรู้สึกของผู้โพสต์เอง ซึ่งเด็กที่เป็นแม่วัยรุ่น มักมีปัญหาอารมณ์ที่จะต้องรับมือกับความรู้สึกในช่วงตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวจากความรู้สึกผิด ความวิตกกังวล รวมถึงปัญหาอารมณ์ซึมเศร้า แต่ผลกระทบจากการใช้โซเชียลคือกระแสที่ตอบกลับ ทั้งในด้านให้กำลังใจและด้านตำหนิติเตียน สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ทำให้เกิดการเลียนแบบ รวมทั้งสิ่งที่ส่งผลตอบกลับมายังตัวผู้โพสต์ เป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงด้วย
อย่างไรก็ตาม บทบาทของคุณพ่อและแม่ ควรเป็นที่ปรึกษา ดูแลจิตใจวัยรุ่น รวมถึงประสานงานหรือหาตัวช่วย ในการดูแลเรื่องสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ทำให้การตั้งครรภ์นั้นมีความปลอดภัย รวมไปถึงการป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำ เช่น วางแผนการคุมกำเนิดถาวร ปัจจุบันได้มีมาตรการป้องกันท้องที่สองของคุณแม่วัยรุ่นอายุ ตั้งแต่ 15- 19 ปี โดยสามารถรับยาคุมกำเนิดหรือถุงยางอนามัยฟรี ได้ที่หน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
ขณะที่ การป้องกันระยะยาวนั้น ผู้ปกครองจะต้องพูดคุยเรื่องเพศกับลูกก่อนถึงวัยอันเหมาะสม ในเรื่องบทบาทในเพศของตัวเอง ค่านิยมทางเพศที่ถูกต้อง ที่สำคัญต้องพูดคุยการป้องกันมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือหากมีสถานการณ์ที่จำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะต้องมีทักษะและรู้จักการป้องกัน และในสภาวะที่ไม่สามารถป้องกันได้ ผู้ปกครองควรจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ในเรื่องการที่จะเสี่ยงตั้งครรภ์หรือเสี่ยงไปทำแท้งที่ไม่ถูกวิธี โดยขณะนี้หลายหน่วยงานกำลังมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง และพัฒนาระบบบริการให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นให้ง่ายมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีความร่วมมือจากทุกฝ่ายของเด็กวัยรุ่น ทั้งในเรื่องของของค่านิยมที่ถูกต้อง ทักษะชีวิตที่ดี และการปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงโรงเรียนควรมีการศึกษาสุขศึกษาให้เด็กเข้าใจ
รายงานข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงรายงานสถิติการคลอดของแม่วัยรุ่นประเทศไทย ปี 2556 ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2559 พบว่า จำนวนเด็กวัยรุ่นที่ควรคลอดลูก อายุช่วง 10-14 ปี มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 1.7 อายุ 15-19 ปี มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 51.2 โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมากจาก การขาดโอกาสด้านการศึกษา การไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์ การใช้วิธีการคุมกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง แรงกดดันจากรอบข้างให้เกิดการมี เพศสัมพันธ์ การล่วงละเมิดทางเพศรวมทั้งการข่มขืน ความรุนแรงในครอบครัว จะเห็น ได้ว่าปัจจัยเหล่านี้มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน หรือเชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ เช่น การแต่งงาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดยเฉพาะการขาดความรู้ศักยภาพที่จะป้องกันตัวจากการล่วงละเมิดทางเพศ และไม่ทราบวิธีคุมกำเนิดที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ การตั้งครรภ์ในผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 17 ปี นั้นพบว่า ก่อให้เกิดผลเสียแก่ทารก เด็กมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ทำให้ทารกนํ้าหนักตัวน้อย และมีโอกาสเสียชีวิตประมาณเกือบ 3 เท่า หากเทียบกับแม่ที่มีอายุมากกว่า 20-24 ปี รวมถึงผลกระทบด้านสุขภาพอื่น ๆ เช่น ภาวะเลือดจางในแม่ การเกิดภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ หรือการคลอดทารกแฝด
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เอชไอวี หนองใน ซิฟิลิส ร่วมกับการตั้งครรภ์ในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นวัยรุ่นมากกว่าหญิงตั้งครรภ์ในวัยอื่นๆ โดยผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กที่เกิดจากแม่วัยรุ่นในระยะกลางและระยะยาวนั้น จะทำให้เด็กมีโอกาสได้รับการเลี้ยงดูอย่างไม่เหมาะสมทั้งด้านโภชนาการและการกระตุ้นพัฒนาการ ส่งผลให้มีการเจริญเติบโตด้านร่างกายและพัฒนาการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ที่ด้อยกว่าเด็กที่เกิดจากแม่วัยอื่น
ขอบคุณภาพจาก : "สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข"