วันนี้ (26 มิ.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กรด้านสิทธิเด็กและสตรี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อเร่งรัดให้ดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในคดีค้ามนุษย์ พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และนครราชสีมา ที่พบว่า บุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นข้าราชการในพื้นที่ สะท้อนให้เห็นค่านิยมเลี้ยงดูปูเสื่อของข้าราชการไทย ที่อาจเป็นต้นทางไปสู่ปัญหาการคอร์รัปชั่น
นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรด้านเด็กผู้หญิงและเยาวชน ยื่นหนังสือร้องเรียนกับ นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิสตรี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้เร่งรัดตรวจสอบการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำคดีการค้าประเวณีเด็ก และค้ามนุษย์ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนครราชสีมา เนื่องจากมีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อบริการทางเพศ และจากคำบอกเล่าของเด็กที่แม่ฮ่องสอน ยังระบุว่ากลุ่มข้าราชการเป็นกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด สะท้อนให้เห็นว่าค่านิยมเลี้ยงดูปูเสื่อยังคงมีอยู่ และหากเป็นไปได้ อยากให้พิจารณาสนับสนุนให้ปัญหาที่เกิดขึ้นใน 2 พื้นที่เข้าสู่การดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์
แม้เวลานี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะกลับไปทำงานตามเดิม เพราะไม่พบการกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่ นางทิชา ยังมองว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ไม่มีการสอบสวนทางวินัย ทั้งที่ผู้ว่าฯ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด และประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งนางทิชา ตั้งข้อสังเกตุว่า อาจเป็นการบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ไม่สอดส่องและป้องกันการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ในพื้นที่แม่ฮ่องสอน
ซึ่งการร้องเรียนครั้งนี้ไม่เพียงแค่การขอให้เร่งรัดการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิด และแก้ไขปัญหา ที่เป็นต้นเหตุของการค้ามนุษย์ แต่กลุ่มผู้ร้องเรียนยังต้องการให้คุ้มครองผู้เสียหายพยาน ในกระบวนการยุติธรรม เพราะที่ผ่านมาพบว่า ยังมีการเปิดหน้าพยาน และไม่นำคำให้การผู้เสียหายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อคดี
