แถลงปิดคดีเรียบร้อย สำหรับคดีฆ่ายกครัวผู้ใหญ่วรยุทธ หลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ รับตัวผู้ต้องหาร่วมทีมสังหาร 8 คน จากทหาร พร้อมขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ฝากขังผัดแรกทันที โดยไม่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมยืนกราน เอาผิดซูริก์ฟัตถึงประหารชีวิต และยังไม่มีข้อมูลนายทุนหนุนหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถของนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล ผู้ต้องหาฆ่ายกครัวผู้ใหญ่วรยุทธ และพวกอีก 7 คน เดินทางมาถึงกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือเข้าประกบตัวทันที ขณะที่พื้นที่รอบนอก ตำรวจควบคุมฝูงชนมากกว่า 500 นายควบคุมสถานการณ์ ป้องกันเหตุวุ่นวาย หลังมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาดูตัวผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาสวมเสื้อเกราะกันกระสุน หมวกปราบจลาจล และผ้าพันคอสีเหลืองทุกคน และมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
ทั้งนี้ หลังจากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 8 คนเข้าสู่กระบวนการรับส่งตัว ผ่านขั้นตอนการลงบันทึกประจำวัน พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจโรค และตรวจรับของกลาง ก่อนที่จะพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและตำรวจระดับนายพลชุดคลี่คลายคดี หลังจากนั้น ตำรวจให้ผู้ต้องหาจำลองเหตุการณ์ แทนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนอกสถานที่ โดยผบ.ตร.ให้เหตุผลที่ไม่นำตัวผู้ต้องหาทำแผนฯ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย และพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ขณะนี้เพียงพอแล้ว พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ฝากขังภายในวันนี้
สำหรับการแถลงข่าววันนี้ (21 ก.ค.60) ของผบ.ตร.ร่วมกับทีมตำรวจระดับนายพล เนื้อหาไม่ได้แตกต่างจากที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่าผู้ต้องหาทุกคนที่จับได้ ไม่ใช่แพะ และจุดยืนตามพยานหลักฐาน ยังคงยืนกรานเอาผิด นายซูริก์ฟัต ให้ได้รับโทษหนักที่สุดคือประหารชีวิต สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์โหดเหี้ยม และไม่กังวลเรื่องการฆ่าล้างแค้นจากอีกฝ่าย เพราะทราบตัวละครในคดีนี้หมดแล้ว
ส่วนประเด็นที่พันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ เปิดเผยข้อมูลลับที่อ้างว่า ได้จากบุคคลใกล้ชิดในพื้นที่ ว่าคดีฆ่าล้างครัว มีมูลเหตุ มาจากเรื่องผลประโยชน์ มูลค่า 40-50 ล้านบาท ที่กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ว่าจ้างผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันในนาม "เจ๊ ชุมพร" ด้วยค่าจ้าง 2 ล้านบาท และจ่ายล่วงหน้าแล้ว 1 ล้านบาท ให้สังหารนายวรยุทธ เรื่องนี้ ผบ.ตร.ไม่ได้ให้น้ำหนักเพราะคนที่เปิดเผยข้อมูลเป็นอดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ แต่จะให้พนักงานสอบสวนเชิญตัวมาให้ปากคำเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย โดยมอบหมายใหเพล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผบ.ตร.ดำเนินการ
ขณะที่ หากเจ๊ชุมพรของพ.ต.ท.สันธนะ หมายถึง ตัวละครหนึ่งในคดีนี้ที่ตำรวจเคยให้น้ำหนัก คือ ภรรยาของนายนรินทร์ เก่งธนทรัพย์ นายทุนโรงโม่หินจากจังหวัดตรัง พ.ต.ท.สันธนะ ก็อาจต้องระวังข้อหาหมิ่นประมาท ถ้าไม่มีหลักฐานเพียงพอ เพราะตามสิทธิ์ผู้ที่ถูกพาดพิงสามารถเอาผิดได้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า สรุปตัวเลขของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีทั้งหมด 8 คน บาดเจ็บ 3 คน และรอดพ้นจากการทำร้าย 1 คน คือ เด็กวัย 3 เดือน ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมด 8 คน 2 ใน8 ถูกตั้งข้อหาหนักคือนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล และนายคมสรรค์ เวียงนนท์ ทั้ง 2 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษสูงสุดประหารชีวิต ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 คน มีฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาผลประโยชน์อันเกิดเเต่การกระทำความผิด ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ตั้งเเต่ 5 คนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำเอกสารสิทธิ์ และข้อหาอื่นๆอีกหลายข้อหา
ส่วนนางสาวชลิดา สังขโชติ ผู้ต้องหาหญิงรายเดียวที่ถูกออกหมายจับ แม้ว่าไม่พบตัวในวันเกิดเหตุ แต่จากทางของตำรวจพบว่านางสาวชลิดา เคยแต่งตัวคล้ายทหารพยายามจะอุ้มผู้ใหญ่วรยุทธมาแล้ว3-4 ครั้ง ก่อนหน้านี้ แต่ไม่สำเร็จ จึงมีความผิดฐานเเต่งกายโดยใช้เครื่องเเบบคล้ายทหาร ร่วมกันเเสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และซ่องโจร
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้