สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลายพื้นที่ในอิตาลีกำลังเผชิญวิกฤตภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี จากปัญหาสภาพอากาศร้อนจัด และฝนที่ตกน้อยกว่าปกติเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรกว่า 2 ใน 3 โดยเฉพาะพืชที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองุ่น มะกอก และมะเขือเทศ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายแล้วกว่า 2 พันล้านยูโร หรือประมาณ 78,200 ล้านบาท จนทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินไปแล้วใน 2 เมืองทางตอนเหนือของประเทศ
นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ยังทำให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศด้วย ขณะที่ระดับน้ำในทะเลสาบบรัคชาโน (Bracciano) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงประชาชนในโรม ก็ลดลงจนน่าเป็นห่วง
วิกฤตดังกล่าวทำให้ทางการเริ่มใช้มาตรการจำกัดการใช้น้ำในกรุงโรมมาโดยตลอด เห็นได้จากการทยอยปิดน้ำพุที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในเมือง ไม่เว้นแม้แต่นครรัฐวาติกัน ที่เริ่มปิดน้ำพุสำคัญๆที่มีอยู่กว่า 100 แห่งแล้วเช่นกัน
ล่าสุด ทางการกรุงโรมกำลังพิจารณาว่าจะใช้มาตรการปันส่วนน้ำกินน้ำใช้ในสัปดาห์นี้ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยคาดว่าอาจจะต้องปิดน้ำประปานานถึงวันละ 8 ชม. รวมถึงการสั่งห้ามใช้น้ำจากทะเลสาบบรัคชาโนด้วย