เมื่อวันที่ (28 ก.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักฐานที่เก็บได้จากร่อง ในห้องน้ำโรงเรียน จุดเกิดเหตุที่นางสาวลัดดา จินดาแก้ว อายุ 33 ปี ถูกคนร้ายรัดฆ่าและทุบหัวจนเสียชีวิต ก่อนถุกพบเป็นศพเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ที่ผ่านมา คือหลักฐานที่ชุดสืบสวนสอบสวนในคดีนี้มั่นใจว่าจะสามารถใช้มัดตัวคนร้ายได้
พันตำรวจเอกถนอม อ่วมพรหม ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเขาวิเศษ จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเอจากตัวอย่างของผู้อยู่ในโรงเรียน ทั้งหมด หากพบว่าตรงกับร่องรอยในที่เกิดเหตุก็จะสามารถมัดตัวผู้ต้องหาได้แน่นอน เนื่องจากเป็นบุคคลเดียวที่มีเหตุจูงใจจากความขัดแย้งส่วนตัว พร้อมระบุว่ายังไม่พบว่าผู้อยู่ในเหตุการณ์รายอื่นจะเข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัย
ด้านครอบครัวของผู้ตาย เปิดเผยว่า กังลเกี่ยวกับการคลี่คลายคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหา เป็นผู้บริหารโรงเรียน รู้จักกับผู้กว้างขวางในพื้นที่ อาจจะวิ่งเต้นล้มคดีได้ พร้อมกับแสดงความกังวลว่าตำรวจอาจปิดคดีเร็วเกินไป
ขณะที่ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาตรังเขต 2 รักษาการ ในตำแหน่งผอ.เขตพื้นที่การศึกษาตรังเขต 2 ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมสั่งพักงาน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี นายวินิจ อัครสุวรรณกุล ผอ.ร.ร.บ้านหนองคล้า ผู้ต้องหาในคดีนี้ เนื่องจากหลังเกิดเหตุยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากทางโรงเรียน ทั้งที่ตามระเบียบ หากเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้น จะต้องมีรายงานให้ต้นสังกัดทราบในทันที