"ถูกผู้อื่นทำให้ตาย แต่ไม่ใช่ฆาตกรรม" เป็นคำพูดของผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้องเมื่อ 22 กันยายนปีที่แล้ว ซึ่งอาจสร้างความสับสนได้พอสมควร นี่อาจเป็นหนึ่งในประเด็น ที่ทำให้ยังไม่สามารถสรุปว่า การที่ศาลชี้ว่า นายธวัชชัย อนุกูล ถูกผู้อื่นทำให้ตาย จะเป็นการฆาตกรรม เพราะศาลไม่ได้ระบุว่า มีการฆาตกรรมหรือไม่ และไม่ได้ระบุว่า ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้สื่อมวลชนดู ไล่เรียงตั้งแต่รถพยาบาลโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเดินทางมาถึงดีเอสไอ วันที่ 30 สิงหาคม 2559 เวลา 01.17 น. และ เจ้าหน้าที่กู้ชีพนำตัวนายธวัชชัยส่งขึ้นรถพยาบาลเวลา 01.24 น.ซึ่งก่อนหน้านั้นดีเอสไอแจ้งไปยังโรงพยาบาลว่า ธวัชชัย ใช้ถุงเท้ารัดคอ จนหมดลมหายใจ และ ให้พนักงานรักษาความปลอดภัยช่วยปั๊มหัวใจ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นก่อนหน้านั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนของชุดคลี่คลายคดี สน.ทุ่งสองห้อง โดยพันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกมายอมรับเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559 ว่า กล้องวงจรปิด 6 ตัวบริเวณทางเดินห้องขัง ระบบล่ม ไม่สามารถดูย้อนหลังได้
อีก 1 หลักฐานคือภาพนิ่งระหว่างที่ดีเอสไอควบคุมตัว ธวัชชัย อนุกูล มีตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายภาพผู้ต้องหา ตรวจร่างกาย เซ็นเอกสารก่อนนำตัวไปควบคุมในห้องขัง 6008 จุดที่พบร่างของธวัชชัยไร้ลมหายใจ ซึ่งแต่ละภาพจะเห็นว่าสีหน้า ท่าทางของของผู้ต้องหาไม่ได้ดูตึงเครียด ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าเขาถูกฆาตกรรมหรือไม่
หลังจากนั้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจทุ่งสองห้อง ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า การสอบปากคำพยาน ควบคู่กับผลชันสูตรพลิกศพ และร่องรอยจุดเกิดเหตุ ทำให้ระบุในสำนวนการชันสูตรพลิกศพว่า “ธวัชชัย อนุกูล ถูกผู้อื่นทำให้ตาย” แต่ยังไม่รวมใน สำนวนคดีอาญา ว่าการถูกทำให้ตาย เกิดจาก “ฆาตกรรม” หรือไม่
สิ่งที่ต้องจับตาดูหลังจากนี้ คือการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ว่าจะแกะรอยหา “ผู้อื่น” ที่ทำให้ ธวัชชัย อนุกูล เสียชีวิตได้หรือไม่ ซึ่งประเด็นที่อาจจะนำไปสู่การไขปริศนาได้ คือ ธวัชชัย อนุกูล เสียชีวิตที่ห้องขังดีเอสไอ จนถูกให้การช่วยเหลือโดยปั๊มหัวใจจนมีชีวิตกลับมาอีกครั้ง หรือ ธวัชชัย ไปหมดลมหายใจจนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จนถูกวินิจฉัยว่า “ถูกผู้อื่นทำให้ตาย” ซึ่งอาจรวมถึง การที่ต้องไปดูด้วยว่า “การทำให้ตาย” มีเจตนาหรือไม่