วันนี้ (7 ส.ค. 60) สำนักข่าว KCNA ระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ของสหประชาชาติ ละเมิดอธิปไตยเกาหลีเหนืออย่างร้ายแรง และเป็นอีกความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะกีดกันและหยุดเกาหลีเหนือ โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือย้ำท่าทีว่าจะไม่มีวันยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ตราบใดที่สหรัฐฯ ยังดำเนินนโยบายที่มุ่งทำร้ายเกาหลีเหนืออยู่ พร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือจะตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรรอบนี้อย่างสาสม จะล้างแค้นเป็นพันเท่า
โดยมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือรอบใหม่ของสหประชาชาติ ประกอบด้วยการห้ามนำเข้าอาหารทะเล ถ่านหิน เหล็ก ตะกั่ว และแร่จากเกาหลีเหนือโดยเด็ดขาด ,ห้ามรับแรงงานเกาหลีเหนือเข้าทำงานในประเทศเพิ่ม ,ห้ามลงทุนร่วมกับชาวเกาหลีเหนือหรือบริษัทของเกาหลีเหนือ ,ห้ามลงทุนเพิ่มในโครงการร่วมที่มีอยู่แล้วกับเกาหลีเหนือ ,ประกาศยึดทรัพย์และห้ามเดินทางเพิ่ม โดยประเทศสมาชิกต้องส่งรายงานการดำเนินการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ให้สภาความมั่นคงภายใน 90 วัน
ด้านสหประชาชาติเผยมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบล่าสุด ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และประเทศคู่ค้าคู่เจรจา เดินทางไปร่วมการประชุมกันที่กรุงมนิลาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา แต่คนที่ดูท่าจะมีบทบาทไม่น้อยหน้ารัฐมนตรีชาติสมาชิกอาเซียนในงานนี้ คือนายเร็กส์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งวันนี้ ทิลเลอร์สัน ประชุมกับ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นและออสเตรเลีย พร้อมออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ทุกประเทศที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติ ทำตามมาตรการคว่ำบาตร ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกันในวันนี้ นายอลัน ปีเตอร์ คาเยทาโน่ เลขานุการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ได้พูดคุยกับนาย รี ยอง โฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ ระหว่างการประชุมนอกรอบที่กรุงมนิลา โดยคาเยทาโน่ มีหน้าที่ที่จะพูดคุยและชี้แจง ท่าทีของอาเซียนต่อสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี ให้นาย รี ยอง โฮ ทราบ ซึ่งแม้จะล้าช้าบ้างแต่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนก็ได้ออกแถลงการณ์ร่วมในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเป็นการแสดงความวิตกกังวลต่อความตรึงเครียดที่ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทดสอบขีปนาวุธ 2 รอบล่าสุดของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา
